อันวาร์ จี้ รบ.เร่งเจรจา “คดีโฮปเวลล์”ลดหนี้ หลังดอกเบี้ยพุ่ง 2.4 ล้านบาท ต่อวัน

อันวาร์ จี้ รบ.เร่งเจรจา “คดีโฮปเวลล์”ลดหนี้ หลังดอกเบี้ยพุ่ง 2.4 ล้านบาท ต่อวัน

เมื่อวันที่ 3 กันยายน นายอันวาร์ สาและ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ แถลง กรณี “คดีโฮปเวลล์” เสนอแนะให้รัฐบาลเร่งเจรจาเพื่อลดหนี้ เนื่องด้วยคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน ได้นํารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง “การปฏิบัติตามกฎหมายของโครงการก่อสร้างทางรถไฟยกระดับและถนนยกระดับในเขตกรุงเทพมหานคร และ การใช้ประโยชน์ที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย (โฮปเวลล์)” เข้ามาเพื่อรายงาน พร้อมตั้งข้อสังเกตด้านกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม และข้อเสนอแนะให้รัฐบาลพิจารณานําไปปฏิบัตินั้น

“ผมได้ฟังคําชี้แจงจากรายงานและได้ตรวจสอบข้อมูล จึงได้ทราบว่าประเด็นต่างๆในรายงานนี้ ทางกระทรวง คมนาคมได้ยื่นเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาล และศาลปกครองสูงสุดมีคําพิพากษาจนถึงที่สุดแล้ว และให้คู่กรณี ดําเนินการตามคําพิพากษา แต่ปรากฏว่าไม่มีการดําเนินการใดๆทั้งสิ้น จึงทําให้เกิดความเสียหายต่อภาครัฐยืดยาว ออกไปเป็นค่าดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นอีกวันละ สองล้านสี่แสนบาทเศษ รวมระยะเวลาจนถึงขณะนี้เป็นเงินมากกว่าหนึ่งพันล้านบาท ซึ่งเป็นหนี้ใหม่และเป็นหนี้ที่จะทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกวัน อีกทั้งยังสร้างความเสียหายอันเกิดจากภาพลักษณ์ทั้งของรัฐบาลและของประเทศไทยในภาพรวมของนักลงทุนต่างชาติจากทั่วโลก ซึ่งไม่สามารถประเมินค่าได้ ทําให้ผมต้อง ตรวจสอบข้อมูลต่อไปว่า ในอดีตเมื่อมีปัญหาในลักษณะรัฐบาลแก้ปัญหาด้วยวิธีได้ ก็พบว่ากรณีที่รัฐบาลมีข้อพิพาท เกี่ยวกับสัมปทานทางด่วนระหว่างการทางพิเศษกับบริษัททางด่วนและรถไฟกรุงเทพ (มหาชน) หรือ BEM นั้นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแก้ปัญหาด้วยการเสนอให้ครม.ต่อสัมปทานทางด่วน BEM ต่อไปอีก 15 ปี 8 เดือน เพื่อแลก กับการยุติข้อพิพาท ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากมูลนิธิเพื่อผู้บริโภคโดยเลขาธิการ คุณสารี อ๋องสมหวัง และคุณ รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา ซึ่งชี้ว่ารัฐบาลจะเสียประโยชน์มากกว่าเพราะคดียังอยู่ในการพิจารณาของศาลใครแพ้ ชนะยังตัดสินไม่ได้แต่ก็ไร้ผล หากเปรียบเทียบกับกรณีของโฮปเวลล์ศาลตัดสินเป็นที่สุดแล้ว ยังดึงดัน บิดพริ้วไม่ยอม ดําเนินการจนเกิดความเสียหายโดยต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ทําให้สังคมเริ่มเกิดความไม่ไว้วางใจว่ามีเบื้องหน้าเบื้อง หลังหรือไม่ ซึ่งผมจะดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป”

“ในเบื้องต้นผมขอเสนอด้วยความหวังดีว่าท่านนายกต้องรีบดําเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเช่นการเร่งเจรจาเพื่อ ที่จะยุติปัญหาการสูญเสียดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นทุกวัน พร้อมทั้งขอต่อรองลดยอดจํานวนเงินที่ศาลสั่ง ว่าลดได้เท่าไร แล้ว รีบประกาศให้สังคมทราบ จะได้เป็นผลงานของรัฐบาลและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติในยามวิกฤตเช่นนี้”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image