นศ.เรียงแถวปราศรัยฉะจนท. หน้าเรือนจำ ‘อั๋ว สนท.’ ประกาศ เตรียมให้กำลังใจนร.ที่ศธ.
สืบเนื่องจากกรณี เมื่อวันที่ 3 กันยายน ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก มีคำสั่งเพิกถอนประกันตัว นายอานนท์ นำภา ทนายความศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน และ นายภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ระยอง ผู้ต้องหาในความผิดฐานยุยงปลุกปั่น ตาม ป.อาญา มาตรา 116 พร้อมข้อหาอื่นๆ จากการร่วมชุมนุมและปราศรัย กับกลุ่ม “เยาวชนปลดแอก” ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยศาลไต่สวนเพิกถอนการประกันตัวตามคำร้องของพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เนื่องจากพบว่าทั้ง สองทำผิดเงื่อนไขประกันตัว จากการขึ้นปราศรัย ที่ จ.เชียงใหม่ และ มธ.ศูนย์รังสิต โดยทั้งสองไม่ขอยื่นประกันตัวอีก จึงถูกนำตัวไปฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา นั้น
เมื่อวันที่ 4 กันยายน ประชาชนมีการนัดหมายรวมตัวกันบริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ในเวลา 16.00 น. ผ่านทางโลกออนไลน์ เพื่อยืนยันสิทธิและการแสดงออกทางการเมือง โดยระบุว่า “ต้องไม่มีประชาชนถูกขังเพราะการแสดงความเห็น”
เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าเรือนจำพิเศษ กรุงเทพฯ ถนนงามวงศ์วาน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร มีประชาชนทยอยเดินทางมาร่วมเฝ้าให้กำลังใจ ทนายอานนท์ และ ไมค์ ระยอง กันอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ประชาชื่น และเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงนอกเครื่องแบบหลายสิบนาย
เวลา 21.19 น. นายสิรภพ พุ่มพึงพุทธ นิสิต มหาวิทยาลัยศรีนครินวิโรฒ วิทยาเขตองครักษ์ และ แกนนำ มศว คนรุ่นเปลี่ยน กล่าวปราศรัยถึงกิจกรรม “ล้างบาปตำรวจไทย” ว่า วันนี้เราไปทำความสะอาด บำเพ็ญประโยชน์หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความวุ่นวายเกิดขึ้นเล็กน้อย วัตถุประสงค์เพื่อทำความสะอาดป้ายที่มีใครบางคนไม่รู้เอาเท้าไปเหยียบป้าย แค่อยากจะล้างป้าย ล้างมลทินให้ตำรวจชั้นปฏิบัติการ แต่มีผู้บังคับบัญชาของเขา บอกว่า ขอได้ไหม ไม่ให้ยุ่งกับป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยากถามว่า ป้ายสำนักงานตำรวจแห่งชาติสงวนไว้ให้ใคร
“เขาบอกว่านายสั่งมา จึงขอให้เรียกนายมาคุย เมื่อถามนาย เขาก็บอกว่านายสั่งมา นาย คือใคร สวัสดิการตำรวจก็ต่ำ เงินเดือนก็ต่ำ ชุดก็ต้องซื้อเอง กิจกรรมวันนี้เห็นตั้งแต่ต้นจนจบ ว่าตำรวจมาอำนวยความสะดวก แต่พี่ๆ ก็ไม่ขยับออกไปเลย ป้่ายไม่ใช่ของใคร แต่เป็นของประชาชน เหมือนคำว่าชาติ ชาติคือแผ่นดินของประชาชน”
จากนั้น แอม นักศึกษา มหาวิทยาลัยศิลปากร อ่านประกาศ ของ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ไทยแลนด์ ซึ่งคือ องค์กรสิทธิมนุษยชนระดับโลก กล่าวถึงแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ในการชุมนุม ว่า คือ “การอำนวยความสะดวก” เพราะประชาชนมีสิทธิชอบธรรมในการชุมนุม ไม่ควรถูกตราหน้าว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม, “ไม่ขัดขวางการชุมนุมโดยสันติ” ซึ่งอยากถามว่าทุกการชุมนุมของเราที่ผ่านมาไม่มีความสันติหรือ, “ข้ออ้างสลายการชุมนุม” ควรจะยุติสถานการณ์ตึงเตรียดหรือความรุนแรง จากการหารือร่วมกัน เพื่อลดความรุนแรง ซึ่งพวกผมพยามยามหลีกเลี่ยงการใช้กำลังมาตลอด ทำไมพี่ๆ ยังใช้กำลังปะทะเรา, “ตรวจสอบเจ้าหน้าที่ได้” หากเป็นการใช้กำลังโดยไม่ชอบทำ ซึ่งทุกวันนี้พี่ก็กำลังใช้กำลังอย่างไม่ชอบทำอยู่ “การสลายชุมนุมเมื่อไม่มีสามารถทางออกอื่น” ถามว่าการใช้รถถังและปืนสมควรและเหมาะสมแล้วหรือ
“ผมอยากให้มีการยกเลิกมาตรา 116 ที่บอกว่า หากมีการยุยงปลุกปั่นจะมีการดำเนินคดีกับเรา การที่เราใช้ไมค์เครื่องเสียงเพื่อพูด เป็นการยุยงปลุกปั่นตรงไหน เราออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพเพื่อประชาชนทุกคน ซึ่งประชาชนเห็นด้วย แล้วทำไมคนที่ออกกฎหมายยังไม่เห็นว่าพวกผมสมควรได้รับความยุติธรรม เรามาทวงความยุติธรรมให้กับพี่อานนท์ และไมค์ อยากให้ไปทบทวนว่าเป็นการกระทำความผิดมาตรา 116 ทำไมไม่ปล่อยพี่เราสักที” นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากรกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งสามยืนยันว่า จะกลับไปล้างป้ายให้สำเร็จในครั้งหน้า จะกลับไปพร้อมจดหมายเพื่อทวงความยุติธรรมคืนให้กับประชาชน และทุกคนที่ถูกอุ้มหาย หรือเสียชีวิตจากการออกมาชุมนุมโดยสันติ
จากนั้น น.ส.จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ประธานสหภาพ นักเรียน นิสิต นักศึกษา แห่งประเทศไทย ขึ้นเวที โดยแจ้งว่า วันพรุ่งนี้ จะไม่มีกิจกรรมที่หน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แต่เราจะไปรวมกันหน้ากระทรวงศึกษาธิการ จะไปให้กำลังใจนักเรียนที่นั่น และวันที่ 6 ก.ย. จะมีกิจกรรมอีกครั้ง ใหญ่จนทุกคนต้องตะลึง เป็นแบบเบิ้มๆ ขอให้ติดตามต่อไป
