สภาถกงบวัน3 อัด กระทรวงทรัพย์ คนยากไร้รุกที่ถูกบังคับใช้กม. คนรวยแค่รื้อออกไม่ผิด

ถกงบวันที่ 3 “สภา”อัด กระทรวงทรัพย์ ชี้ คนยากไร้ถูกบังคับใช้กฎหมาย แต่คนมีอำนาจบารมีปลูกบ้านพักในเขตอุทยาน รื้อออกก็ไม่มีความผิด ซัด กระทรวงพาณิชย์ไม่ทำตามที่หาเสียงไว้

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 18 กันยายน ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านบาท ในวาระ 2 และ 3 เป็นวันที่ 3 โดยมีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา คนที่สอง เป็นประธานในการประชุม ทั้งนี้ ที่ประชุมสภา พิจารณาในมาตรา 17 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 12,019,276,700 บาท โดยส่วนใหญ่ส.ส.ตั้งข้อสังเกตถึงการทำงานของกรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืชว่า ขณะนี้มีปัญหาป่าทับซ้อนพื้นที่ที่ชาวบ้านอยู่กันมาอยู่แล้ว ซึ่งหลายพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์และไม่มีสภาพเป็นป่ามาตั้งแต่ต้น แต่กลับมีการประกาศเป็นพื้นที่ป่า จึงควรเพิกถอนสภาพป่าในพื้นที่ปัญหาและเยียวยาประชาชน นอกจากนี้ ประชาชนผู้ยากไร้ส่วนใหญ่มักจะถูกบังคับใช้กฎหมาย คนเฒ่าคนแก่ไปเก็บของป่าถูกปรับจำคุก แต่คนมีอำนาจบารมีไปปลูกบ้านพักอยู่ในเขตอุทยาน เพียงแค่รื้อออกก็ไม่มีความผิดแล้ว ส่วนกรมควบคุมมลพิษไม่มีการขับเคลื่อนเพื่อลดค่ามาตรฐานฝุ่น PM 2.5 ให้เหลือ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ไม่มีการจัดงบประมาณเพื่อใช้เกณฑ์วัดฝุ่นแบบใหม่ ซึ่งภายหลังอภิปรายกันครบถ้วนแล้ว ที่ประชุมสภา จึงลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 256 เสียง ต่อ 98 เสียง และงดออกเสียง 10 เสียง

จากนั้นที่ประชุมสภา ได้พิจารณาในมาตรา 18 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงพลังงาน โดยส่วนใหญ่ส.ส.อภิปรายถึงนโยบายของกระทรวงพลังงานที่ไม่สนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้ก๊าซเอ็นจีวีซึ่งเป็นพลังงานสะอาดเท่าที่ควร ซึ่งภายหลังอภิปรายกันครบถ้วนแล้ว ที่ประชุมสภาฯ จึงลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 262 เสียง ต่อ 101 เสียง และงดออกเสียง 9 เสียง

ต่อจากนั้นที่ประชุมสภา ได้พิจารณาในมาตรา 19 งบประมาณรายจ่ายของกระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานในกำกับ โดยก่อนเริ่มการอภิปรายนั้น นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ได้แจ้งต่อที่ประชุมสภา ว่า ขณะนี้ฝ่ายค้านเหลือเวลาในการอภิปรายอีก 8 ชั่วโมง 58 นาที 32 วินาที ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ ส.ส.อภิปรายถึงราคาสินค้าเกษตรที่ไม่สมน้ำสมเนื้อ รัฐบาลไม่ดูแลชาวสวนปาล์มเหมือนกับที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชนใช่หรือไม่ ขณะที่ข้าวสารที่ราคาแพงมากนั้น เพราะข้าวถูกน้ำท่วมและฝนแล้งจนแทบจะไม่มีข้าวขายแล้ว ซึ่งไม่ได้เกิดจากฝีมือการบริหารงานของรัฐบาลเลย ซึ่งภายหลังอภิปรายกันครบถ้วนแล้ว ที่ประชุมสภา จึงลงมติเห็นชอบด้วยคะแนน 263 เสียง ต่อ 113 เสียง และงดออกเสียง 8 เสียง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image