หมอชลน่าน เชื่อพลังมวลชนกดดัน ส.ว.แก้กติกา เผยประชุมวิป 3 ฝ่ายวางถก 6 ญัตติ
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2563 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงรูปแบบการประชุมรัฐสภาในวันที่ 23-24 กันยายน เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ จำนวน 6 ญัตติว่า ขึ้นอยู่กับที่ประชุมรัฐสภาจะมีมติอย่างไรในการกำหนดวิธีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐ ธรรมนูญทั้ง 6 ฉบับ ซึ่งในวันที่ 22 กันยายน จะมีการหารือวิป 3 ฝ่ายคือ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน และ ส.ว.เพื่อกำหนดรูปแบบการพิจารณาอย่างเป็นทางการ เบื้องต้นจะเสนอให้พิจารณาอภิปรายแสดงความเห็นรวมกันได้ทุกญัตติ แต่ในการลงมติจะให้แยกลงมติเป็นรายมาตรา โดยในวันที่ 23 กันยายน จะให้อภิปรายญัตติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2 ญัตติของพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่เสนอแก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ
เมื่ออภิปรายครบแล้ว ก็ให้ลงมติจะรับหลักการวาระแรกหรือไม่ โดยใช้วิธีการขานชื่อรายบุคคล จะให้สมาชิกรัฐสภาแต่ละคนตอบในครั้งเดียวเลยว่า จะรับญัตติของพรรคร่วมรัฐบาล และรับญัตติของพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ เพื่อประหยัดเวลา ไม่ต้องขานชื่อลงมติ 2 ครั้ง เพราะการขานชื่อรายคนแต่ละครั้ง ใช้เวลา 3 ชั่วโมง เนื่องจากมีสมาชิกรัฐสภาถึง 750 คน ส่วนการพิจารณาวันที่ 24 กันยายน จะพิจารณาญัตติแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราที่เหลืออีก 4 ญัตติ รูปแบบเหมือนกับการอภิปรายวันที่ 23 กันยายน
นพ.ชลน่านกล่าวว่า ส่วนกรณีเสียง ส.ว.ที่ยังไม่ชัดเจนจะช่วยลงมติแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่นั้น เราคงไม่สามารถบังคับให้ ส.ว. 84 เสียง มาร่วมลงมติได้ แต่เชื่อว่า จำนวนมวลชนที่มาร่วมชุมนุม เมื่อวันที่ 19 กันยายน จะเป็นตัวกดดันให้ ส.ว.ลงมติเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญตามความต้องการของประชาชน ดูแล้วน่าจะได้เสียง ส.ว.พอ 84 เสียง ในการลงมติรับหลักการวาระแรกได้ เพราะถือว่าเป็นการปลดทุกข์ช่วย ส.ว. เพราะ ส.ว.เองก็คงไม่สบายใจในอำนาจมาตรา 272 ที่ต้องลงมติโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แต่จำเป็นต้องทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ถือเป็นการยกภูเขาออกจากอก ส.ว.
