‘วันชัย’ แหกวงล้อม ส.ว. หนุนตั้ง ส.ส.ร. ชงปิดสวิตช์โหวตนายกฯ ชี้บริบททางการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว

‘วันชัย’ แหกวงล้อม ส.ว. หนุนตั้ง ส.ส.ร. ชงปิดสวิตช์โหวตนายกฯ ชี้บริบททางการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว

เมื่อวันที่ 23 กันยายน ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อพิจารณาญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 จำนวน 6 ฉบับ โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานสภา

เวลา 21.25 น. นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. อภิปรายว่า ญัตติแรกที่ฝ่ายค้านเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนรู้สึกเฉยๆ ต่อมาพรรคร่วมรัฐบาลเสนอญัตติขอแก้ไขมาตรา 256 เช่นเดียวกับฝ่ายค้าน ทำให้ตนตระหนักว่าสมาชิกรัฐสภาในส่วนของ ส.ส. ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้านหรือรัฐบาลต่างเห็นปัญหาของรัฐธรรมนูญ ยิ่งเมื่อคณะ กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 สภาผู้แทนราษฎรที่ชี้ให้เห็นปัญหาในแต่มาตรา ประกอบกับฝ่ายบริหาร โดยเฉพาะรองนายกฯบางคนก็เห็นปัญหาบางประเด็น จึงตัดสินใจ ตนเห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพิ่มเติมมาตรา 256 ตามญัตติของพรรคร่วมรัฐบาล และฝ่ายค้าน รวมไปถึงญัตติขอแก้ไขมาตรา 159 และมาตรา 272 ในส่วนของอำนาจ ส.ว.ในการโหวตนายกฯ ส่วนอีก 3 ร่างญัตติแก้ไขรายมาตราของฝ่ายค้านนั้น ตนทราบว่าเป็นเพียงความต้องการของพรรคการเมืองบางส่วน ซึ่งยังมีความเห็นไม่ตรงกัน

นายวันชัยกล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญฉบับนี้ทุกฝ่ายใช้มาแล้ว 2–3 ปี ทุกฝ่ายทั้งในและนอกสภาฯเห็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญ ในฐานะที่ตนเป็น ส.ว.ก็เห็นปัญหารัฐธรรมนูญบางมาตราที่นำมาใช้ ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นการลดความขัดแย้งทั้งภายในและภายนอก ซึ่งหากแก้ไขแล้วไม่มีฝ่ายใดเสียหาย มีแต่จะทำให้เกิดความรัก ความสามัคคี แต่อย่างไรก็ตาม แม้ในวันที่ 24 กันยายนนี้ มีการโหวตให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะรัฐธรรมนูญเขียนไว้เป็นประตูสุดท้ายว่า จะแก้ไขได้ต้องเป็นมติของมหาชนที่เราเรียกว่าประชามติ ตนจึงสนับสนุนต่อการแก้ปัญหา และการฟังเสียงของประชาชน ด้วยการเปิดให้มีตัวแทนประชาชนทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม กระบวนการที่ดีที่สุดคือการมี ส.ส.ร.จากการเลือกตั้ง ตนจึงสนับสนุนด้วยความจริงใจ เพราะอย่างน้อยที่สุด ส.ส.ร.ก็มีส่วนผสมผสานของทุกภาคส่วน เหมือนเราอยู่ในบ้านหลังนี้ที่เห็นว่าตรงไหนรั่วผุพังก็ต้องปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ทุกคนอยู่อย่างอบอุ่น

Advertisement

นายวันชัยกล่าวต่อว่า การยกเลิกมาตรา 159 และ 272 เรื่อง ส.ว.โหวตนายกฯ เป็นเรื่องเฉพาะกิจที่ผ่านไปแล้ว ที่สำคัญการดำรงอยู่ของนายกฯในปัจจุบันหรืออนาคต ไม่ได้อยู่เพราะ ส.ว. แต่อยู่ได้เพราะ ส.ส.ส่วนใหญ่ จะอยู่หรือจะไปขึ้นอยู่กับเสียงของ ส.ส.ทั้งสิ้น และการเลือกนายกฯครั้งที่ผ่านมาก็ดูจากเสียง ส.ส.ที่สนับสนุน ตนจึงเห็นว่าการกระทำเฉพาะกาล และบริบททางการเมืองที่เปลี่ยนไป มาตรานี้จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ นอกจากนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญยังเป็นการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 257 เพราะก่อให้ประเทศมีความสงบเรียบร้อย ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ และเมื่อมีการแก้รัฐธรรมนูญแล้วทำอย่างไรเราจะปิดสวิตช์ประชาธิปไตยที่โกงกินทุจริตธุรกิจการเมือง ทำอย่างไรเราจะปิดสวิตช์การปฏิวัติการยึดอำนาจ และวงจรอุบาทว์ทางการเมือง ตนหวังว่าเมื่อมีการแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 256 ได้แล้ว เชื่อเหลือเกินว่าการเมืองจะเข้าสู่วงจรที่ดีและมั่นคง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image