ยิ่งชีพ ‘ไอลอว์’ เล่านาทีเผชิญหน้า ‘หมอวรงค์’ เย้ยใครอ้างประชามติ 59 ‘สมควรอาย’

ยิ่งค่ำยิ่งคึก! ยิ่งชีพ ‘ไอลอว์’ เล่านาทีเผชิญหน้า ‘หมอวรงค์’ เย้ยใครอ้างประชามติ 59 ‘สมควรอาย’

เมื่อวันที่ 24 กันยายน บริเวณหน้ารัฐสภา เกียกกาย ซึ่งเป็นจุดนัดหมายทำกิจกรรม ‘ไปสภา ไล่ขี้ข้าศักดินา ผูกโบ ปราศรัย ยื่นใบลาออก’ โดยตณะประชาชนปลดแอกและกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเวลา 19.00 น. ตัวแทนคณะประชาชนประกาศบนเวทีปราศรัย ว่า พวกเราขอเรียกร้องให้ สส. และ สว. ออกทางประตูหน้า อย่าออกด้านหลัง การแก้รัฐธรรมนูญ ที่มีแนวคิดให้ตั้งกมธ.ก่อน ซึ่งจะทิ้งเวลานานไปถึงเดือนพฤศจิกายน และหากมีการคว่ำร่างอีก ก็ต้องรอไปถึงเดือนพฤษภาคม ซึ่งเรารอไม่ได้แม้เพียงวันเดียว

จากนั้น นายยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน หรือไอลอว์ ขึ้นรถปราศรัย กล่าวขอบคุณประชาชนที่ร่วมสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการลงชื่อร่วมรื้อร่างสร้างรัฐธรรมนูญได้มากกว่าเป้าหมายตามกฎหมาย 5 หมื่นชื่อถึง 1 เท่า คือ 100,732 ชื่อ โดยยื่นที่รัฐสภาแล้วเมื่อวันอังคารที่ 22 กันยายนที่ผ่านมา ภารกิจนี้สำเร็จได้ด้วยประชาชน นักเรียน นักศึกษา ที่เห็นตรงกันว่ารัฐธรรมนูญนี้ต้องแก้

นายยิ่งชีพ ยังเล่าเหตุการณ์ที่ร้าน บุ๊ค รีพับลิก จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีการตั้งโต๊ะเพื่อให้ลงชื่อ 1 เดือนมีผู้ลงชื่อ 800 คน ช่วงท้าย มีนักเรียนหญิงชั้น ม.3 อายุไม่ถึง ลงชื่อไม่ได้ จึงพาแม่มาลงชื่อ แต่แม่กลัว จึงไม่ลงชื่อ น้องยืนร้องไห้เพราะรู้ว่าบ้านเมืองวิกฤต วันนี้อยากบอกว่า แม้น้องไม่ได้ลงชื่อ แต่ประชาชนร่วมกันลงชื่อจนครบและเกินจำนวนตามกฎหมายกำหนดแล้ว ประชาชนทำแทนน้องแล้ว

นายยิ่งชีพกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาสื่อถามตนเยอะมาก ว่าถ้ารัฐสภาไม่รับร่าง ตนจะทำอย่างไร ตนจะไม่ตอบคำถามนี้ด้วยตนเอง เพราะร่างนี้เสนอได้เพราะประชาชนช่วยกันเสนอ พวกเราประชาชนทุกคนต้องช่วยกันตอบว่าจะทำอย่างไร ใครอยากลงถนน เชิญทำ เพราะเราได้พยายามแก้ไขปัญหา หาทางออกตามระบบแล้ว หากเสียงประชาชนถูกโยนทิ้งน้ำ แสดงว่าไม่อยากแก้ตามระบบ แต่บีบให้ประชาชนลงถนน ในวันนี้ตนไปออกรายการโทรทัศน์พร้อมกับ ดร.เวทิน ชาติกุล นักวิชาการสถาบันทิศทางไทย ซึ่งพูดวนไปวนมา แต่พอตนบอกว่า ขอถามคำถามเกียวว่า สว.250 คนถูกเลือกมาโดยคนกลุ่มหนึ่ง เพื่อให้กลับมาเลือกคนกลุ่มนั้นอีก คุณจะเอาหรือ ดร. เวทินตอบตนว่า ‘ก็ไม่รู้ใครไปเขียนไว้’ สะท้อนว่าดร.เวทินก็ทราบว่าแบบนี้ไม่ถูกต้อง พูดง่ายๆ ว่า คนที่ไม่อยากให้แก้รัฐธรรมนูญ ไม่มีเหตุผลที่จะยกมาพูดได้ ในสภาก็พูดถ่วงเวลาเท่านั้น

Advertisement

นายยิ่งชีพ กล่าวต่อว่า ตนยังไปออกรายการในอีกช่องหนึ่ง พบนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ตนพยายามชวนคุยเนื้อหา นพ.วรงค์ก็ไม่คัดค้าน แต่พูดวนไปมา ข้ออ้างสำคัญ คือทำประชามติแล้ว ซึ่งจริงๆแล้วเป็นประชามติในยุคที่มีการควบคุมสื่อ ใช้ ม.44 ใครอ้างประชามติ ปี 59 สมควรอาย ขอให้หมอวรงค์เลิกอ้าง ขนาดนายสมชัย ศรีสุทธิยากร ยังหันมาลงชื่อกับไอลอว์

“ไอลอว์ เสนอยกเลิก สว.250 คน แต่พรรคการเมือง ยังไม่มีการเสนอในประเด็นนี้ นี่คือเรื่องสำคัญที่ต้องเน้น เพราะเป็นเนื้อหาสำคัญในร่างของเรา อย่าโยนข้อเสนอของประชาชนทิ้งน้ำ ถ้าทิ้ง แสดงว่าไม่อยากแก้ปัญหาตามระบบ บีบให้ประชาชนลงถนน” นายยิ่งชีพกล่าว

จากนั้น นายยิ่งชีพพร้อมมวลชน ตะโกน ‘รัฐธรรมนูญต้องแก้ ถ้าไม่แก้ ออกไป’ ต่อมาในเวลา 19.15 น. เกิดการแตกตื่นขึ้นเล็กน้อยในกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากมีผู้ชุมนุมเกิดเป็นลม นายยิ่งชีพและตัวแทนคณะประชาชนปลดแอกต้องอธิบายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยระบุว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image