‘วิษณุ’ ยกกรณี ‘สารสาสน์’ ชี้ยุคสมัยเปลี่ยน ต้องปฏิรูปสังคม สอนผู้มีอำนาจไม่ควรทำเกินเหตุ

‘วิษณุ’ ยกกรณีสารสาสน์ สะท้อนยุคสมัยเปลี่ยน ต้องปฏิรูปสังคม-สำนึกหลักนิติธรรม ร่ายกลอนสุนทรภู่ สอนผู้มีอำนาจไม่ทำสิ่งเกินสมควรกว่าเหตุ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 1 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีโรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์ ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ที่มีปัญหาครูทำร้ายเด็ก ว่า เคสที่เกิดขึ้นนี้ ทำให้ตนคิดได้ว่าสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ อะไรที่เรารู้สึกว่าเคยทำได้ มันไม่แน่หรอกว่าจะยังทำได้ต่อไป อะไรที่สอนกันมาว่าเป็นจารีต เป็นประเพณี วันนี้ก็ต้องระมัดระวังว่าอย่าให้มันเกินเลย มีหลายเรื่อง ไม่ใช่แค่เพียงเด็กกับครูที่โรงเรียนสารสาสน์วิเทศราชพฤกษ์เท่านั้น ปัญหาระหว่างพ่อแม่กับลูก สามารถตีลูกได้ขนาดไหน หรือปัญหาระหว่างสามี ภรรยา ปัญหารุ่นพี่กับรุ่นน้อง ปัญหาผู้บังคับบัญชากับผู้ใต้บังคับบัญชา ปัญหานายจ้างกับลูกจ้าง ปัญหาพระกับเด็กวัด สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่เคยทำกันมาได้ในอดีต แต่นั่นเพราะในอดีตเขาเห็นว่ามันไม่เกินสมควรกว่าเหตุ

“วันนี้ไปยึดหลักว่าเคยทำได้ จึงทำได้ แต่วันนี้มันทำกันเกินสมควรแก่เหตุ ซึ่งมันจะเป็นความผิดทั้งนั้น สิ่งที่ไม่เคยถือสา ก็จะถือสา เราก็จะเห็นเรื่องเกิดขึ้นมากมาย วันนี้เราอยู่ในสังคมอีกแบบหนึ่งแล้ว ซึ่งก็ดีแล้วที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น จะได้ระมัดระวังกัน แต่อย่าระวังเฉพาะเรื่องครูกับนักเรียนในโรงเรียนเท่านั้น เรื่องอื่นๆ ที่ผมพูดมาทั้งหมดหลายคู่ ก็คงต้องระมัดระวังเช่นกัน เพราะยุคนี้ความคิดคนเปลี่ยนไป และถือว่าไม่ผิดที่ความคิดเปลี่ยน จิตสำนึกในเรื่องหลักนิติธรรม ธรรมาภิบาล เหล่านี้เปลี่ยนแปลงไป เมื่อ 20 กว่าปีก่อนใครไปทำกับจอร์จ ฟลอยด์ อย่างนั้นก็ดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ ผิดแต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่วันนี้เป็นเรื่องใหญ่จนเผาบ้านเผาเมืองกันตั้งกี่เมือง นั่นก็เป็นเพราะสภาพสังคมซึ่งไม่ใช่เฉพาะประเทศไทย ประเทศไหนๆ ในโลกก็ตามก็จะไม่ทนในสิ่งนี้แล้ว ดังนั้นคนที่มีอำนาจต้องระมัดระวังมาก” นายวิษณุกล่าว

นอกจากนี้ นายวิษณุยังยกคำกลอนจากหนังสือมูลบทบรรพกิจของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) ซึ่งท่านนำมาจากกาพย์พระไชยสุริยาของสุนทรภู่อีกต่อหนึ่งความว่า “ระวังตัวกลัวครูหนูเอ๋ย ไม้เรียวเจียวเหวย กูเคยเข็ดหลาบขวาบเขวียว หันหวดปวดแสบแปลบเสียว หยิกซ้ำช้ำเขียว อย่าเที่ยวเล่นหลงจงจำ” รองนายกฯ กล่าวต่อว่า นี่เป็นสุภาษิตสอนให้เด็กท่องเพื่อให้สะกดเป็น เป็นคำที่เขียนยาก แสดงให้เห็นว่าไม้เรียวตีเด็กได้ แต่วันนี้ลองใช้ไม้เรียวตีเด็กซิ จะเกิดอะไรขึ้น สุนทรภู่ก็สุนทรภู่เถอะ มันไม่ใช่กูเข็ดหลาบฟาบเฟียวแล้ว แต่กูจะเอามึงจนขวาบเฟียว”

Advertisement

เมื่อถามว่า กรณีนี้จะโยงไปถึงการให้มีการปฏิรูปการศึกษาได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ทั้งหมด ทุกเรื่อง ตอนนี้เราต้องระวังทั้งหมด อะไรที่ไม่เคยผิดมันอาจจะผิด มันจึงไม่ใช่แค่การปฏิรูปการศึกษา แต่ต้องปฏิรูปสังคม ปฏิรูปความรู้สึกนึกคิดให้รู้สึกในเรื่องหลักนิติธรรม ในเรื่องธรรมาภิบาลและเรื่องการเอาใจเขามาใส่ใจเรา

เมื่อถามว่า กรณีนี้จะจบอย่างไร รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ ก็ต้องดูกันต่อไป แต่ขอบคุณมากที่เรื่องนี้กระทรวงศึกษาธิการเข้าไปได้เร็ว และเป็นคนกลางได้เป็นอย่างดี ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image