‘บิ๊กตู่’ เผย 11 ต.ค.นำ ‘อาคม’ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ วอนขอเวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ผลงาน

‘บิ๊กตู่’ เผย 11 ตุลาฯ นำ ‘อาคม’ เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ ขอเวลาและให้ผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ขอทุกคนทำบุญ สร้างกุศลให้ประเทศผ่านช่วงวิกฤตให้ได้ ย้ำประเทศไทยสำคัญที่สุด

เมื่อเวลา 13.15 น.วันที่ 6 ตุลาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม.ถึงเหตุผลที่เลือกนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็น รมว.คลัง คนใหม่ ว่าก่อนหน้านี้ที่ตอบว่าใช่หรือไม่ใช่นายอาคมนั้นก็เป็นเรื่องของตน เพราะบางครั้งก็พูดอะไรไม่ได้จนกว่าที่จะครบถ้วนกระบวนความตามขั้นตอน เหตุผลที่เลือกนายอาคมนั้นก็เพราะเหมาะสมกับสถานการณ์ในเวลานี้ และนายอาคมก็รู้งานรู้การมาโดยตลอด

“ความจริงผมก็เสนอไปหลายคนที่จะให้สมัครใจเข้ามาทำงาน แต่ก็ไม่มี เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าก็ต้องใช้คนที่รู้งานรู้การมาเป็นอย่างดี และสามารถเข้าทำงานได้กับฝ่ายการเมืองได้ด้วย แต่ก็มีหลักการของผม ของนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เพราะนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบในภาพรวมทั้งหมด ก็ขอให้ติดตาม” นายกรัฐมนตรีกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า คิดว่าชื่อของนายอาคมจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนตัวคิดว่าอยู่ที่การปฏิบัติมากกว่า ถ้าทุกคนเอาชื่อมาเป็นที่ตั้งก็จะวุ่นกันทั้งหมด ต้องดูที่ผลงานซึ่งออกมาในรูปของรัฐบาล เพราะตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังไม่ใช่ว่าจะอนุมัติได้ด้วยตัวเองทั้งหมด ก็จะต้องนำเรื่องเข้าสู่ที่ประชุม ครม.ต้องผ่านการคัดกรอง ผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการ ผ่านสำนักงบประมาณ ผ่านสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ถึงจะผ่านการใช้จ่ายงบประมาณได้ เพียงแต่สามารถคิดและเสนอโครงการโดยหารือกับตนในฐานะนายกฯและ ครม.ก่อนนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม ถือเป็นหน้าที่ของรัฐมนตรีทุกกระทรวง เพราะฉะนั้น ผลงานและแผนงานที่ออกมาทั้งหมดต้องผ่านขั้นตอนของ ครม.และผ่านนายกรัฐมนตรีเป็นผู้อนุมัตินำเข้า ครม. ทั้งหมดนี้ถือเป็นขั้นตอนที่ถูกต้อง

“ดังนั้น ความเชื่อมั่นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ภาษาไทยแท้ๆ สรุปคือคนดี คนเห็นชอบ แต่ก็มีบางพวกที่ไม่ชอบใครสักคน บางพวกก็ชอบอีกคนมากกว่า จึงขอให้เป็นเรื่องของผลงานก็แล้วกัน ขอให้ติดตามตอนต่อไป โดยในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ จะนำนายอาคมเข้าเฝ้าฯเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ และจะเริ่มทำงานในวันที่ 12 ตุลาคมเป็นต้นไป จึงขอให้ดูที่ประสบการณ์ หลายๆ คนก็ขานรับ ซึ่งผมได้พูดคุยหารือกันมาอยู่แล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

Advertisement

ข่วงท้าย นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงวันเวลาที่หลายอย่างจะปรากฏออกมาว่าประเทศไทยติดกับอยู่ที่ใคร ปัญหาอยู่ที่ใครบ้าง ทำความดีกันเถอะ ไหว้พระไหว้เจ้า นับถือศาสนา ทำบุญเข้าวัด ทำบุญทำกุศลมากๆ ประเทศไทยจะพ้นภัย ช่วงนี้ขอให้ผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากของเราไปให้ได้ โดยเฉพาะในช่วงวิกฤตโควิด-19 รวมถึงสถานการณ์การเมืองด้วย ผมคิดว่าประเทศไทยสำคัญกว่าอย่างอื่น ทำอย่างไรประเทศไทยจะดำรงอยู่ได้อย่างสงบสุข มีเสถียรภาพเสีย คนไม่ดีก็จะปรากฏออกมาเรื่อยๆ และต้องถูกลงโทษไปก็เท่านั้นเอง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image