‘บิ๊กป๊อก’ กำชับผู้ว่าฯกทม.รับมือท่วม อย่าอ้างไฟดับ-ปั๊มสูบน้ำทำงานไม่ได้

‘บิ๊กป๊อก’ กำชับผู้ว่าฯกทม.รับมือท่วม อย่าอ้างไฟดับ-ปั๊มสูบน้ำทำงานไม่ได้

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศฉบับที่ 9 ระบุว่า พายุระดับ 1 (หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง) ปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนใต้และทางด้านตะวันออกของประเทศกัมพูชา กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่าจะเคลื่อนตัวผ่านประเทศกัมพูชา ภาคตะวันออกของประเทศไทยเข้าสู่บริเวณอ่าวไทยตอนบนในวันที่ 8 ตุลาคม ลักษณะเช่นนี้ส่งผลกระทบต่อภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางและภาคใต้ ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง กับมีลมแรงเกิดขึ้นได้ ในช่วงวันที่ 8-9 ตุลาคม ขอให้ประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากและควรระวังอันตรายจากลมแรง โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่และสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 4 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และควรงดการเดินเรือช่วงวันที่ 8-10 ตุลาคม ส่วนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่ จ.สงขลา ลงไป คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) กล่าวว่า ขณะนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กพฝ.) ปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพลและสิริกิติ์ เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่ท้ายน้ำ รวมถึงยังเป็นการเก็บกักน้ำในแหล่งน้ำ โดยเขื่อนภูมิพล จ.ตาก ปรับลดการระบายจาก 3 ล้าน ลบ.ม. เหลือวันละ 1 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ลดการระบายจาก 6 ล้าน ลบ.ม. เหลือวันละ 4 ล้าน ลบ.ม. โดยจะยังคงระบายน้ำในระดับที่ไม่ส่งผลกระทบต่อผู้เลี้ยงปลาในกระชังท้ายเขื่อนและคุณภาพน้ำท้ายเขื่อนด้วย ทั้งนี้ กฟผ.ปรับลดการระบายน้ำจากทั้ง 2 เขื่อน ตั้งแต่วันที่ 8-11 ตุลาคม โดยกอนช.จะติดตามสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิดเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริหารจัดการน้ำในเขื่อนให้สอดคล้องกับสถานการณ์

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ประกาศ 10 จุดเสี่ยงเฝ้าระวังน้ำท่วม ว่า กทม. เตรียมความพร้อมปั๊มน้ำ และลอกท่อระบายน้ำ แต่ปัญหาคือมีฝนตกทั่วกทม. แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ ต้องติดตามดูแลให้มีผลกระทบเรื่องน้ำท่วมน้อยที่สุด และตนกำชับผู้ว่าฯกทม.ว่า สิ่งที่ไม่อยากให้อ้างคือไฟฟ้าดับ ปั๊มทำงานไม่ได้ โดยให้การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) จัดชุดเคลื่อนที่ลงพื้นที่เตรียมแก้ปัญหาในจุดที่มีปั๊มขนาดใหญ่ พร้อมเตรียมพร่องน้ำเพื่อระบายให้ได้ตามที่เตรียมแผนไว้ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

Advertisement

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม.และคณะ ลงพื้นที่ตรวจประสิทธิภาพการทำงานของอุโมงค์ระบายน้ำคลองแสนแสบและคลองลาดพร้าวลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา (อุโมงค์ยักษ์พระราม 9) เขตห้วยขวาง กทม.

พล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า พายุกำลังเข้าสู่ กทม. เตรียมเครื่องสูบน้ำ รวมถึงเจ้าหน้าที่ประจำจุดเสี่ยงน้ำท่วมขังตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับอาคารรับน้ำพระราม 9 รองรับน้ำครอบคลุมพื้นที่ 6 สำนักงานเขต ส่วนท่อระบายน้ำนั้น เดิมมีขนาดเพียง 60 เซนติเมตร ปัจจุบันปรับให้มีขนาดใหญ่ขึ้นในบางพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถทำได้ครบทั่วทั้งกรุงเทพฯ เนื่องจากยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ต้องแก้ไขร่วมกันด้วย ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กทม.จะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อรับมือกับปริมาณฝนที่ตกลงมา

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image