สมพงษ์ ร่อนสาร แจงทิศทางการทำงานพรรค พท. ลั่น เมื่อ รบ.ไม่เป็นที่พึ่ง พท.จะคิดใหม่ ทำใหม่อีกครั้ง

สมพงษ์ ร่อนสาร แจงทิศทางการทำงานพรรค พท. ลั่น เมื่อ รบ.ไม่เป็นที่พึ่ง พท.จะคิดใหม่ ทำใหม่อีกครั้ง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 ตุลาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พท. หลังการปรับโครงสร้างพรรคเป็นครั้งแรก ซึ่งคณะกรรมการบริหารพรรคเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมหน้า

ทั้งนี้ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท. ได้ออกสารในนามหัวหน้าพรรค พท. เรื่อง “ทิศทางการทำงาน ของคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย” ว่า เมื่อรัฐบาล ไม่อาจเป็นที่พึ่งหวังได้ พรรค พท. จะคิดใหม่ ทำใหม่อีกครั้ง ร่วมกับประชาชน สรรหาโอกาส เพื่อต่อสู้วิกฤต ทั้งนี้ กว่า 6 ปี 4 เดือนที่ผ่านมา ที่ประชาชนต้องทนอยู่ภายใต้การบริหารประเทศโดยผู้นำชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่าจะใช้สถานภาพใด ตั้งแต่หัวหน้าคณะรัฐประหาร นายกรัฐมนตรีที่มาจากการแต่งตั้งตัวเอง จนถึงนายกรัฐมนตรีจากการสืบทอดอำนาจผ่านรัฐธรรมนูญ 2560 ชีวิตของประชาชนไม่เคยเปลี่ยนแปลง หนำซ้ำยิ่งเลวร้ายลงทุกที ขณะที่วิกฤตทางด้านเศรษฐกิจ ประเทศไทยต้องประสบปัญหาความถดถอยทางเศรษฐกิจมาอย่างต่อเนื่อง ยิ่งเมื่อถูกซ้ำเติมด้วยการระบาดของโควิด-19 วันนี้ประชาชนทุกระดับต่างได้รับความเดือดร้อน สิ้นหวังกันถ้วนหน้า ธุรกิจต่างๆ ทยอยปิดตัว โดยเฉพาะกิจการที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว และภาคบริการ รวมถึงธุรกิจอาหารจากภาคเกษตรหรือประมง และธุรกิจส่งออก ไม่รวมถึงเศรษฐกิจระดับ SME ที่ไม่สามารถเข้าถึงมาตรการความช่วยเหลือต่างๆ จากรัฐบาลตามที่ประกาศไว้

นายสมพงษ์กล่าวอีกว่า ต่อมาคือ วิกฤตทางด้านการเมือง ด้วยกฎกติกาของรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ถูกจัดทำขึ้นเพื่อสืบทอดอำนาจของคณะบุคคลที่ทำรัฐประหาร เพื่อตอบแทนผลประโยชน์ของพวกพ้องตน ผลพวงที่ตามมาได้แสดงอย่างประจักษ์ชัดถึงปัญหาทางการเมืองมากมาย ที่ล้วนแล้วแต่ขยายความขัดแย้ง บั่นทอนความเชื่อมั่นต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ของประเทศ ระบบทางการเมือง การกระจายเงื่อนไขสนับสนุนโอกาสทางเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ ล้มเหลว ไม่วางอยู่บนหลักนิติรัฐ นิติธรรม แต่กลับขึ้นอยู่กับอำเภอใจของผู้มีอำนาจ จนเป็นข้อเรียกร้องของประชาชนทุกกลุ่ม ทุกภาคส่วน อย่างกว้างขวาง ให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน อันเป็นต้นตอของความขัดแย้งและความวุ่นวายทั้งมวล เสียงเรียกร้องของประชาชนกำลังดังกระหึ่มทั้งแผ่นดิน แต่ผู้มีอำนาจ ผู้นำรัฐบาลกลับเพิกเฉย ไม่ให้ความสำคัญ พยายามใช้กลไกทุกวิถีทางที่จะเตะถ่วง ยื้อเวลา มองข้ามปัญหา ซึ่งยิ่งนานวันยิ่งทำให้สังคมและประชาชนรับรู้ความเปราะบางของศักยภาพและกลไกรัฐ ว่าเป็นการนำที่ไม่เคยยึดผลประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง

“ด้วยสถานการณ์วิกฤติของประเทศดังที่กล่าวในข้างต้น พรรค พท.ภายใต้การบริหารของคณะกรรมการบริหารชุดนี้ จึงขอประกาศว่า เมื่อรัฐบาล ไม่อาจเป็นที่พึ่งหวังได้ พรรคเพื่อไทย จะคิดใหม่ ทำใหม่อีกครั้งร่วมกับประชาชน สรรหาโอกาส เพื่อต่อสู้วิกฤต พรรค พท.จะร่วมกับประชาชน มุ่งหาโอกาสฝ่าฟันวิกฤติเศรษฐกิจให้จงได้ เราจะร่วมศึกษา ค้นหาโอกาสทางออกใหม่ๆ นอกกรอบเดิมๆ พรรค พท.จะเริ่มจากการปรับโครงสร้างการทำงานของพรรค เพื่อให้การบริหารจัดการกิจการทั้งภายในองค์กรและประสานกับภายนอก มีศักยภาพที่สอดรับกับสถานการณ์ โดยมีการแบ่งบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบใหม่ ที่สอดคล้องกับพลวัตการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้คณะกรรมการบริหารพรรค และผู้ที่มีความรู้ความสามารถ ได้ทำหน้าที่กรรมการในองค์กรนำของพรรค ร่วมคิด ร่วมประสาน ทำงานกับแนวร่วมและเครือข่ายในทุกระดับ เพื่อสร้างทางเลือกและสรรหาโอกาสในการต่อสู้กับวิกฤติความมั่นคงทุกด้านของประเทศ นอกจากนี้ พรรค พท.ยังคงยึดหลักการกระจายอำนาจ และการระดมทรัพยากรบุคคลระดับต่างๆ ของพรรคอย่างเต็มที่ ผนึกกำลังจากรุ่นสู่รุ่น นำบทเรียนประสบการณ์ความรู้ของรุ่นผู้ใหญ่ กับศักยภาพความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความทันสมัยของการใช้ทักษะทางด้านเทคโนโลยี องค์ความรู้ที่กว้างไกลของคนรุ่นใหม่ เป็นสองกระแสพลังภายในพรรค ร่วมกันทำงาน รับฟังและนำความต้องการของประชาชนมาสร้างและขับเคลื่อนแนวทางเชิงนโยบายใหม่ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน” นายสมพงษ์กล่าว

Advertisement

นายสมพงษ์กล่าวอีกว่า ประเด็นปัญหาหลักที่พรรค พท.จะเร่งให้ความสำคัญ มี 3 เรื่องหลักคือ 1.การแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ โดยหลายนโยบายจาประสบการณ์ของเราที่สามารถสร้าง “ประชาธิปไตยกินได้” กลับมาอีกครั้ง 2.การร่วมขับเคลื่อนกับเครือข่ายทุกภาคส่วนในการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย รวมทั้งการผนึกกำลังร่วมกับกลุ่มพลังฝ่ายประชาธิปไตยของประชาชน ส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งในทุกระดับเริ่มจากการเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เพื่อทวงคืนอำนาจของประชาชนจากการสืบทอดอำนาจของฝ่ายรัฐประหาร ผ่านกลไกการเลือกตั้งที่ยุติธรรม 3.การแก้ไขปัญหาทางด้านการศึกษา และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศ สร้างรากฐานการพลิกเปลี่ยนประเทศในระยะยาว โดยเราจะร่วมกับประชาชน ผลักดันการปฏิรูประบบการศึกษาให้เท่าทันพัฒนาการด้านเทคโนโลยี สร้างโอกาสการเข้าถึงการศึกษาอย่างเป็นธรรม สร้างพื้นฐานเรียนรู้ภาษาอังกฤษและภาษาต่างประเทศให้เข้มแข็ง เพื่อเปิดประตูการเรียนรู้ค้นคว้าด้วยตัวเองในโลก internet ส่งเสริมเสรีภาพในการเรียนรู้ ปลดปล่อยพลังความริเริ่มสร้างสรรค์ รวมถึงการจัดการกับโครงสร้างการกระจายอำนาจออกจากราชการส่วนกลาง ร่วมกับท้องถิ่นที่มีศักยภาพ พรรค พท.” ยังคงยืนยันและยึดมั่นประชาชนเป็นศูนย์กลางทุกจังหวะการคิด และการขับเคลื่อนของพรรค พท. หัวใจยังคงอยู่ที่ประชาชน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image