หมอเจตน์ ถามกลับ เรียกร้องให้”นายกฯลาออกจากความผิดอะไร
เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 27 ตุลาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา สมัยวิสามัญ เพื่อขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไป โดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 165 โดยมีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ต่อเป็นวันที่ 2
ต่อมาเวลา 12.30 น. นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. อภิปรายว่า ข้อเรียกร้องที่ให้นายกรัฐมนตรีลาออกเป็นประเด็นที่มีการอภิปรายกันมาก อยากถามว่าให้นายกฯลาออกด้วยความผิดอะไร หากย้อนดูประวัติศาสตร์มีนายกฯที่ลาออกเพียงคนเดียวคือพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ จากวิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อปี 40 ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยุบสภาด้วยปัญหาทุจริตโครงการรับจำนำข้าวหลายแสนล้านบาท กฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย แต่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีความผิด ไม่ได้กระทำการทุจริตหรือคอร์รัปชั่น และหากลาออกจะเกิดบรรทัดฐานต่อเนื่องว่าไปว่าไม่ได้ทำผิดอะไร แต่มีม็อบมากดดัน แล้วก็ต้องลาออกตามม็อบที่มาชุมนุม มันไม่ควรจะเป็นแบบนั้น และถามว่าจะจบหรือไม่หากท่านลาออก หลายคนพูดว่าไม่จบเพราะคว ามต้องการไม่ได้ต้องการแค่ให้ท่านลาออก จึงไม่แน่ใจว่าลาออกแล้วจะจบ แต่ข้อสำคัญตนคิดว่าพล.อ.ประยุทธ์ ลาออกไม่ได้โดยเด็ดขาด โดยเฉพาะสถานการณ์มีผู้จาบจ้วงสถาบันในขณะนี้ เพราะพล.อ.ประยุทธ์ คือตัวเลือกเดียวที่เหมาะสมที่สุดในการปกป้องสถาบัน
ทำให้น.ส.ธีรรัตน์ สําเร็จวาณิชย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย (พท.) ลุกขึ้นใช้สิทธิพาดพิงทันที โดยระบุว่า มีการใส่ร้ายบุคคลอื่นที่ไม่ได้อยู่ในที่ประชุมสภาแห่งนี้ คือ ท่านได้พูดถึงรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งวันที่มีการประกาศลาออกตนจำได้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น วันนั้นท่านได้แสดงความกล้าหาญอย่างมาก แต่เมื่อครูท่านผู้อภิปรายได้กล่าวหา น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่ามีคดีคอรัปชั่นโครงการรับจำนำข้าง ตนจึงอยากให่ท่านถอนคำพูด เพราะคดีที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้รับคือ คดีตามมาตรา 157 ไม่ใช่คดีคอร์รัปชั่นในโครงการรับจำนำข้าว ท่านต้องเข้าใจเสียใหม่ และอย่าป้ายสี ใส่ร้ายให้ประชาชนเข้าใจผิดในข้อความที่ท่านพยายามบิดเบือน
