สืบเนื่องจากกรณีกลุ่มประชาชนปกป้องสถาบัน จัดกิจกรรมเชิญชวนคนไทยร่วมใจใส่เสื้อเหลือง ถือพระบรมฉาลาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ 10 เพื่อแสดงจุดยืนปกป้องสถาบัน ที่ลานพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 6 สวนลุมพินี เมื่อวันที่ 27 ตุลาคมที่ผ่านมา ก่อนจะประกาศนัดหมายชุมนุมอีกครั้งในวันที่ 28 ตุลาคม เวลา 17.00 น. ที่วงเวียนใหญ่นั้น
เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช วงเวียนใหญ่ เขตธนบุรี กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประชาชนสวมใส่เสื้อสีเหลืองเดินทางมารวมตัวกันอย่างต่อเนื่อง บางส่วนมีการเตรียมพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ 10 พร้อมด้วยพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี มายืนชูไว้เหนือหัว พร้อมโบกสะบัดธงชาติและธงสีเหลืองตลอดการร่วมกิจกรรม
เวลา 17.00 น. นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หรือหมอวรงค์ แกนนำกลุ่มไทยภักดี ขึ้นปราศรัย โดยเนื้อหาตอนหนึ่ง
กล่าวถึงการรับพระราชทานปริญญาบัตร ว่า สมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 7 พระราชทานปริญญาบัตรบัณทิต ปริญญาตรีครั้งแรกในประเทศไทยให้แก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชุดแรก สร้างความภูมิใจให้คนในแผ่นดิน ต่อมา ในยุคคอมมิวนิสต์กำลังบูม เหตุเกิดที่ ม.ขอนแก่น ช่วงนั้นมีบัณฑิต ม.ขอนแก่น รณรงค์ไม่รับพระราชทานปริญญาบัตร ในรัชกาลที่ 9 ตรัสว่า ‘เขาไม่รับไม่เป็นไร เราไม่ว่า แค่รับเพียงคนเดียวเราก็จะไป’
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มวลชนต่างปรบมือ พร้อมตะโกน “ทรงพระเจริญ” กึกก้อง
นพ.วรงค์กล่าวต่อว่า จึงอยากย้ำว่า คนที่คิดไม่ดีกับแผ่นดิน พยายามปลุกปั่นด้วยข้อมูลที่ผิดๆ การปั่นกระแสในทวิตเตอร์เป็นการโกหกทั้งสิ้น ทั้งนี้ นพ.วรงค์ยังกล่าวถึงเยาวชนด้วยว่าไม่ใช่ศัตรู คือคนไทยเหมือนกัน ที่รักสถาบัน
“วันนี้ข้อเท็จจริงหลั่งไหลมาเรื่อยๆ น้องนุ่งลูกหลานเราจะกลับใจ และเราต้องจัดการกับกบกฏของแผ่นดิน ทำอย่างไรดีพี่น้อง” นพ.วรงค์กล่าว โดยมวลชนตะโกน “ออกไป”
นพ.วรงค์กล่าวว่า กลุ่มนี้คือไทยซัมมิท มีหลายคน แต่เราพุ่งเป้า 3 คน พอ ออกมาอีกแล้ว หลังไม่กี่วัน กกต.มีมติดำเนินคดีอาญาพรรคการเมืองที่ทุจริตกับหัวหน้าพรรค และกรรมการบริการพรรค อีก 16 คน อย่างไรก็คุกแน่นอน เอาเงินหัวหน้าพรรคมา 191 ล้านบาท คือเงินบนโต๊ะ อีกใต้โต๊ะเท่าไหร่ไม่รู้ เขากล่าวหาว่า การต่อสู้ใช้หลักนิติสงคราม คนที่พูดดันเป็นนักกฎหมาย ชื่อนายปิยบุตร คนต่อมาเป็นผู้หญิง ตอนนี้มีคดีกับโฆษกไทยภักดี มีที่ไหน เมย์เดย์เมย์เดย์ 3,000 บาท แจกไม่ทุกคน เอาอย่างไรดี ติดคุกหรือออกไป”
จากนั้น มวลชนตะโกน “ออกไป” ก่อน นพ.วรงค์ จะกล่าวถึงคนที่ 3 คือนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
นพ.วรงค์กล่าวว่า เรามาบอกให้รู้จักศัตรูที่เรียกว่ากบฎของแผ่นดิน เชื่อว่าเมื่อ 3 คนนี้ได้ฟังเสียงของพี่น้องทั้งประเทศ นอนไม่หลับแน่นอน เพราะกดดันให้ประชาชนทั้งประเทศออกมา มีหัวใจที่คุกรุ่น พร้อมตะโกน ออกไป
“เรื่องคณะกรรมการสมานฉันท์ที่รัฐบาลจะตั้งขึ้น ถ้ายืนยันเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปฏิรูปสถาบัน หรือให้นายกฯลาออก ไม่สมเหตุสมผล อยากย้ำว่าทุกข้อเชื่อมโยงกัน ถ้าหลงไปแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ไปแก้หมวด สถาบัน ทั้งประเทศพังแน่นอน ยังยืนยัน 3 ข้อเหนื่อยที่จะพูด แต่การคุยกันมีประโยชน์ จึงถามไปว่าเปลี่ยนเป้าหมายได้หรือไม่ อยากให้ประชาชนกินดีอยู่ดี ปลอดทุจริต มีความมั่นคง ประเทศพัฒนา ถ้าตั้งเป้า 4-5 เรื่องนี้ เราคุยกันรู้เรื่อง ถ้าจะแก้มาตราใด นำไปสู่สิ่งดีๆ ของประชาชน เรายอม แค่ถ้าแก้เพื่อประโยชน์ของนักการเมือง เราไม่ยอม
“ให้พี่น้องสบายใจ หลักกระแสการตื่นตัวของประชาชนด้วยจิตวิทยา คู่ต่อสู้เราหวั่นไหวแน่ การลุกขึ้นมาของพี่น้องเสื้อเหลือง เพื่อแสดงความจงรักภักดี สถาบัน คู่ต่อสู้ต้องหวั่นไหวแน่นอน การออกมาเยอะๆ ในทางจิตวิทยาถือว่าชนะแล้ว วันนี้ลูกหลานของเราถูกคนเบื้องหลังกำหนดเกณฑ์ แต่เดิมคุยกับ 3 คน กลุ่มไทยซัมมิท อีกคน กราบสะท้านแผ่นดิน กลุ่มดูไบ ยังมีความเคลื่อนไหวอยู่ สังเกตไหมว่าข้อเรียกร้องที่ราชประสงค์ไม่เอา ‘ธนาธร ปิยบุตร สุดารัตน์’ เอามาเป็นเงื่อนไขให้กลุ่มดูไบลุกคืบ นอกจากไทยซัมมิทมีกลุ่มดูไบที่ต้องระวัง” นพ.วรงค์กล่าว ก่อนจะนัดหมายว่า
เรื่องใหญ่ที่เราต้องทำ ทำทุกวัน คือ 1.แสดงออกด้วยการโพสต์เฟซบุ๊กทุกวัน การแสดงออกในการปกป้องสถาบัน ให้รู้ไว้ว่าวิธีที่ดีที่สุดคือใช้ประชาชนปกป้อง ถ่ายแล้วโพสต์ จะเกิดกระแสที่มีพลังมาก
ข้อ 2 ที่เชื่อว่าคนตามไม่ทัน คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่ยืนยันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะนำพาประเทศชาติของเรา เป็นฉบับที่นักการเมืองกลัวที่สุด
“วันเสาร์ที่ 31 ตุลาคมนี้ เวลา 16.30 น. เราไปทำความรู้ความเข้าใจเรื่องรัฐธรรมนูญ พร้อมกันที่สวนลุมพินี ขอเชิญคนไทยทั้งแผ่นดิน 16.8 ล้านเสียง ทำใจให้ดี คืนก่อนมาห้ามทานแอลกอฮอล์ เพราะจะเป็นการให้ข้อมูลเชิงวิชาการครั้งใหญ่ของประเทศที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นหน้าที่ที่จะปกป้องรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชน” นพ.วรงค์กล่าว และว่า อย่าคิดว่าคนรุ่นใหม่ดี เก่าๆ แต่เก๋ามีอีกเยอะ เชื่อว่ายังมีคนอีกมาก อย่าไปกลัวที่จะออกมาแสดงความจงรักภักดี เพราะเราไม่ได้ทำอะไรผิด พวกที่ผิดคือคนที่จาบจ้วง ใสเสื้อเหลือง โพสต์หน้าเฟซ เรามาสันติ อย่าคิดว่าตัวเองเก๋ามาก เพราะคนเก๋าๆ อยู่นี่หมดแล้ว
จากนั้น มีการยืนสงบนิ่ง เพื่อรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสถาบัน เป็นเวลา 1 นาที