เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย(พท.) ในฐานะอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า สถานการณ์ราคายางพาราทั่วประเทศตอนนี้น่าเป็นห่วงมาก ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศนโยบายประกันรายได้เกษตรกร ราคายางมีแนวโน้มปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น เพราะยางพาราเป็นที่ต้องการของตลาดโลก ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้จากการขายยางพาราทั้งน้ำยางดิบและยางก้นถ้วย ที่ปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาด
นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ราคายางพาราไม่ดีตั้งแต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเข้ามาบริหารประเทศ ราคายางตกต่ำมาโดยตลอด ยางยางก้อนถ้วย ราคาไม่เกิน 15 บาท แต่ภายหลังมีสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ราคายางเริ่มขยับ เพราะยางพาราเป็นที่ต้องในอุตสาหกรรมทางการแพทย์ ส่งผลให้ราคาน้ำยางสดปรับตัวสูงขึ้นตามกลไกตลาด ทั้งนี้ ราคาน้ำยางสด กก.ละ 62-65 บาท ในขณะที่ยางก้อนถ้วย กก.ละ 25-26 บาท เกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศกำลังมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น
นายวิสุทธ์กล่าวว่า หลังจากที่รัฐบาลอนุมัติโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยางเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เพียงแค่ 3 วันส่งผลทำให้ชาวสวนยางต้องทุกข์หนักทันที ทั้งที่เพิ่งฟื้น เพราะราคายางพาราทุกประเภทปรับตัวลดลง โดยราคาน้ำยางสดลดลงทันทีจาก กก.ละ 62 บาทมาอยู่ที่ กก.ละ 42 บาท และมีแนวโน้มว่าราคาจะลดต่ำลงอีก ขณะที่ราคายางก้อนถ้วยตกลงมาอยู่ที่กก.ละ 16 บาท โดยพ่อค้าที่รับซื้อยาง อ้างว่าราคาที่หายไปนั้น ให้ไปรับเงินจากรัฐบาลแทน ดังนั้นมาตรการที่ออกมาจึงเป็นมาตรการที่ทำลายกลไกตลาด และทำร้ายเกษตรกรมากกว่าช่วยเหลือเกษตรกร
” เป็นที่น่าประหลาดใจว่าหลายเดือนที่ผ่านมา ช่วงที่ราคาย่างตกต่ำ รัฐบาลไม่มีมาตรการใดๆ ออกมาให้ความช่วยเหลือเกษตรกร แต่พอราคายางกำลังดีขึ้น รัฐบาลกลับประกาศนโยบายประกันรายได้ส่งผลให้ราคายางปรับตัวลดลงทันที รัฐบาลใช้อะไรคิด เพราะเมื่อกลไกตลาดตามธรรมชาติดีอยู่แล้ว รัฐบาลมาทุบราคายางพาราทำไม เกษตรกรชาวสวนยางทั่วประเทศสงสัยว่ารัฐบาลต้องการอะไรในการออกมาตรการทุบราคายางที่เกษตรกรหวังจะลืมตาอ้าปากได้ รัฐบาลมีอะไรกับ 5 เสือยางพาราหรือไม่จึงออกมาตรการช่วยนายทุนยางพารามากกว่าที่จะช่วยเกษตรกรชาวสวนยาง”นายวิสุทธิ์กล่าว