‘เพื่อไทย’ เสนอไม่ต้องขานชื่อลงมติทั้ง 750 แค่ให้ ส.ว.โหวตก่อน ผ่านไม่ผ่านอยู่ที่ 84 เสียง ด้าน ‘อมรัตน์’ ขอเครื่องขยายเสียงให้ม็อบ ‘ชวน’ บอกผู้ชุมนุมฟังได้เองตามปกติ-ไม่พร้อมจัดเครื่องเสียงให้
เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา นัดพิเศษ เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม โดยองค์ประชุมยังครบ นายชวน จึงกล่าวว่า ตนเข้าใจว่าวันนี้การจราจรมีปัญหา จึงทำให้การเดินทางเข้ามาทำหน้าที่ในสภาฯ ยากลำบาก ดังนั้นพวกเราคงจะรอเพื่อให้องค์ประชุมครบก่อน โดย นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย (พท.) ได้ขอหารือว่า ที่ผ่านมามีการอภิปรายเรื่องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญมาแล้ว ดังนั้น ตนเห็นว่าไม่ควรใช้เวลามากถึงขนาด 2 วัน การลงมติโดยการขานชื่อมีข้อกำหนดว่าต้องใช้เสียงส.ว. เห็นชอบด้วยไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมดที่มีอยู่ของวุฒิสภา ตนจึงขอเสนอว่า เวลาลงมติขอให้ ส.ว.ลงก่อน เพราะสุดท้ายร่างรัฐรัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ก็อยู่ที่ส.ว. 84 ท่าน แล้วเราจะขานชื่อสมาชิกรัฐสภาทั้งหมด 750 ชื่อทั้งสภาทำไม หาก ส.ว.ลงมติ 84 เสียง ก็รู้ผลแล้วว่าร่างใดจะผ่านหรือไม่ผ่าน
จากนั้น นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) หารือต่อที่ประชุม ขอให้รัฐสภาจัดเครื่องขยายเสียง เพื่อถ่ายทอดการอภิปรายในที่ประชุมรัฐสภาไปยังกลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่ด้านนอกรัฐสภา รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับผู้ร่วมชุมนุม
นายชวน กล่าวว่า ขอให้ดำเนินการตามปกติ ทั้งนี้ผู้ชุมนุมสามารถดำเนินการรับฟังได้ด้วยตนเอง หากให้รัฐสภาดำเนินการจัดเครื่องพิเศษอาจไม่พร้อม อย่างไรก็ตามรัฐสภาไม่กีดกันฝ่ายใด แต่ขอให้ชุมนุมอย่างสงบ
จากนั้น นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคพท. ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน เสนอว่า ขอให้สมาชิกเร่งพิจารณา โดยในวันนี้ (17 พ.ย.) จะยุติในเวลา 24.00 น. และอภิปรายต่อในวันที่ 18 พ.ย. จนกระทั่งเวลา 13.00 น. เริ่มลงมติ และน่าจะจบได้ไมเ่เกินเวลา 18.00 น.
ด้าน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่าเวลาของรัฐบาลจะใช้เวลา 4 ชั่วโมง รวมกับรายงานผลการศึกาาของคณะกรรมาธิการ(กมธ.)พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม ก่อนรับหลักการ ส่วนของส.ว.ได้เวลา 5 ชั่วโมง และการนำเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับไอลอว์ ซึ่งตัวแทนผู้เสนอได้เวลา 30 นาที ซึ่งเราทั้งหมดจะพยายามพูดให้อยู่ในเวลาร่วมกัน
