รำลึก ‘2 ปี 3 สหาย’ – เยาวชนเชื่อ ‘ผู้ลี้ภัย’ ได้ยินคงดีใจ คนรุ่นใหม่ต้าน ม.112 ชี้คนเห็นต่างไม่ใช่อาชญากร
เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง กรุงเทพฯ กลุ่มเพื่อนสุรชัย พร้อมด้วย กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย และกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย จัดกิจกรรมรำลึก “2 ปี 3 สหาย” เพื่อระลึกถึงนายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ (แซ่ด่าน), นายชัชชาญ บุปผาวัลย์ หรือสหายภูชนะ และนายไกรเดช ลือเลิศ หรือสหายกาสะลอง ผู้ลี้ภัยการเมืองไทย ไปยังประเทศลาว หลังการรัฐประหารปี 2557
เวลา 16.40 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร้านค้าต่างเข้าจับจองพื้นที่บริเวณหน้าอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา โดยมวลชนส่วนหนึ่งทยอยมารอร่วมกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดย “ทีมเสกของ” ได้ขนของลงจากรถกระบะ เป็นโดนัท อาหาร และน้ำดื่ม สำหรับแจกจ่ายมวลชนที่มาร่วมกิจกรรม
ทั้งนี้ ที่หน้าอนุสรณ์ 14 ตุลา มีการประดับป้าย ระบุข้อความ “ความรัก บทกวี ดนตรี เสรีภาพ เสียงรบกวนจากภายนอก” ใกล้กันมีการตั้งโต๊ะจำหน่ายหนังสือของนายสุรชัย เสื้อ หมวก และตุ๊กตา เพื่อสมทบทุนค่าใช้จ่ายในการจัดกิจกรรมครั้งนี้
นอกจากนี้ มีการติดป้ายภาพ “5 ชีวิตที่ถูกฆ่า” บริเวณหน้าอนุสรณ์ เป็นภาพนายสุรชัย, สหายกาสะลอง และ สหายภูชนะ รวมถึงนายอิทธิพล สุขแป้น หรือ “ดีเจซุนโฮ” นักจัดรายการวิทยุกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ และ นายวุฒิพงศ์ กชธรรมคุณ หรือโกตี๋ นักเคลื่อนไหวเสื้อแดง ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีอาญา มาตรา 112 พร้อมตั้งภาพผู้ลี้ภัยทางการเมืองทั้ง 3 รายบนโต๊ะที่ปูผ้ารองสีแดง ประดับพวงมาลัยและนกกระดาษสีแดงด้านข้าง
ต่อมาเวลา 16.50 น. พิธีกร เป็นเยาวชนชาย-หญิง 2 ราย ขึ้นกล่าว
โดยเยาวชนชายกล่าวว่า วันที่ 12 ธันวาคม เป็นหนึ่งวันที่ครบรอบการได้ทราบข่าวว่า อ.สุรชัย แซ่ด่าน สูญเสียอิสรภาพ และชีวิตในวันนี้ ซึ่งภรรยาและลูกของสหายทั้ง 2 ก็ได้มาร่วมงานด้วย
“เชื่อว่าถ้าดวงวิญญาณทั้งหลายได้ยินจะดีใจที่คนรุ่นใหม่ออกมาต่อต้านมาตรา 112 ถึงเวลาแล้วที่บ้านเมืองนี้ต้องยกเลิก และไม่นำกฎหมายมาตรานี้มาใช้อีกต่อไป ถามว่าทำไมต้องยกเลิก สลิ่มออกมาดิ้น ล่าสุด ออกมาเซฟ ม.112 จึงอยากส่งเสียงไปว่า ถ้าเซฟ 112 ได้ เราก็ต้านได้ และเชื่อว่าพี่น้องที่นี่ก็จะร่วมต้าน ม.112
“ม.112 ทำให้พี่น้องทั้งหลายเจ็บปวดขนาดไหน แม้ผมไม่มีผู้สูญเสียจากกฎหมายนี้ แต่เมื่อได้รับฟังเรื่องราว ของคนที่เจอมาตรานี้แล้วรู้สึกเจ็บปวด ต่างชาติไม่มีใครนำมาใช้ หรือถึงมีก็น้อยมาก” เยาวชนชายกล่าว
ด้านเยาวชนหญิงกล่าวว่า ฝากถึงหน่วยฝ่ายความมั่นคง วันนี้เป็นงานสบายๆ ไม่ต้องกังวลทั้งสิ้น ตู้คอนเทนเนอร์เอาออกไป ไม่ต้องเอากลับมา สบายใจได้
“เราเพียงมาร่วมแสดงความเสียใจกับคนที่แสดงความคิดเห็นต่างทางการเมืองว่าไม่สมควรถูกอุ้มหายเพียงเพราะเห็นต่าง และมาตรา 112 ไม่ควรใช้กับผู้เห็นต่าง เพราะคนเห็นต่างไม่ใช่อาชญากร”
จากนั้น เวลา 17.05 น. นางสุวรรณา ตาลเหล็ก หรือลูกตาล กลุ่ม 24 มิถุนาประชาธิปไตย กล่าวว่า วันนี้คือวันที่เราไม่สามารถติดต่อกับอาจารย์สุรชัยและคนสนิทได้ ซึ่งป้าภรรยาก็ทำใจ แต่ฝ่ายความมั่นคงบอกว่าสุรชัยยังเคลื่อนไหว ยังมีชีวิต อยากฝากว่าถ้ารู้ว่าอยู่ที่ไหนกรุณาไปจับมาเถิด เราจะได้ไปเยี่ยมที่เรือนจำ เราจะไม่พูดแค่ 3 คน แต่จะพูดถึงผลกระทบของคนที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง ชวนกันมานั่งกินข้าว ฟังเรื่องราวการตามหา เพราะเราเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน ใครมีบทกวีเอามาอ่านได้ เพราะทุกคนคือสหายที่เคลื่อนไหวทางการเมืองจากความคิดต่าง
“ถามว่า นี่คือการตอกย้ำความเจ็บปวดหรือไม่ แต่เราต้องตอกย้ำเพื่อเดินหน้าต่อให้ได้รับความเป็นธรรม กระบวนการเสียหายไปมาก การถูกกระทำของผู้เห็นต่างถูกนำมาใช้ค่อนข้างมาก” นางสุวรรณากล่าว
