‘วิโรจน์’ จี้รบ. ฟังยูเอ็นเตือน ทบทวนใช้ม.112 ยุตินำสถาบันฯ มายุ่งเกี่ยวคดีการเมือง

‘วิโรจน์’ ชี้ หาก ‘ประยุทธ์’ จงรักภักดีต้องไม่ใช้ ม.112 – ดึงสถาบันฯ ยุ่งการเมือง

กรณีที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ หรือ OHCHR แสดงความเป็นห่วงการที่รัฐบาลไทยใช้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 จับ และควบคุมตัวนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในไทยจำนวนมาก ซึ่งรวมถึงเยาวชนอายุ 16 ปี พร้อมกดดันรัฐบาลให้แก้ไขปรับปรุงกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ให้อยู่ในระดับสากล

ย้อนอ่าน : สนง.ข้าหลวงใหญ่ ยูเอ็น ห่วง รบ.ไทยใช้ ม.112 จับนักกิจกรรมเยาวชน จี้ปรับให้เป็นสากล

ย้อนอ่าน : รบ.โต้ยูเอ็น ยันใช้ม.112 ปกป้องสถาบัน เหมือนปกป้องพลเมือง คนถูกจับได้อภัยโทษ

เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ว่า ถือเป็นความผิดพลาดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะกฎหมาย มาตรา 112 ที่ใช้เพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัติย์ เป็นกฎหมายที่อารยะประเทศจับตาดูอยู่ ว่ามีการให้อย่างเป็นธรรมและโปร่งใสหรือไม่ การบังคับใช้ต้องมีหลักฐาน หรือพฤติการณ์คืออะไร แต่ที่ผ่านมามีข้อสังเกตมากมาย เพราะบางครั้งคำพูด และการแต่งกายก็ไม่ได้สะท้อนถึงการดูหมิ่น หรืออาฆาตมาดร้ายตรงไหน จากการจับกุมดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมนั้น สะท้อนว่ารัฐบาลใช้มาตรา 112 ที่ตีความอย่างกว้างขวาง และปล่อยปะละเลยให้บุคคลอื่นไปแจ้งความร้องทุกข์ ตามอคติเชิงลบของตัวเองที่มีต่อผู้ชุมนุม คือถ้าเป็นอย่างนี้ ยูเอ็นก็คงกังวลว่า จะมีการใช้มาตรา 112 กับคดีทางการเมือง หรือฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามกับรัฐบาล ที่นำสถาบันพระมหากษัตริย์เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีการเมือง ดังนั้น รัฐบาลต้องตระหนัก และทบทวนท่าทีของตัวเอง ไม่เช่นนั้น จะกระทบกระเทือนถึงสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท โดยที่ไม่สมควรจะเป็น

Advertisement

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การที่ยูเอ็นแถลงให้รัฐบาลปฏิบัติตามกรอบกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights – ICCPR) ในข้อที่ 19 นั่น หมายความว่า สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำเข้าข่าย ขัดกับมาตรา 19 ซึ่งรัฐบาลลงนามไว้ และหมายความว่า รัฐบาลกำลังฉีกให้ประเทศไทย ออกจากแผนที่โลก และดึงให้กลายเป็นประเทศต้องห้าม ตนคิดว่า ถ้าเป็นปัญหาเฉพาะรัฐบาล ยังพอที่จะหลับตาข้างหนึ่งได้ แต่มาตรา 112 เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ แล้วรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ ก็พูดเสมอว่า จงรักภักดี แต่การจงรักภักดีที่แท้จริง คือ การไม่นำสถาบันฯ มายุ่งเกี่ยวกับกับการเมือง และการดำเนิคดีใดๆ ต้องปฏิบัติอย่างรอบคอบ และไม่ตีความอย่างกว้าง คือต้องดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำความผิดจริงๆ และมีหลักฐานอย่างชัดเจน

เมื่อถามว่า จากแถลงการณ์ของยูเอ็น ตามหลักการระหว่างประเทศถือว่ามีความน่าเป็นห่วงหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า การดำเนินคดีตามกฎหมาย มีหลักใหญ่สิทธิพลเมือง ศักดิศรีความเป็นมนุษย์ และมีความโปร่งใสในการบังคับใช้กฎหมาย การใช้มาตรา 112 อย่างกว้างขวาง ถือว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมากๆ และไม่ใช่ความความจงรักภักดี ถ้าจงรักภักดี รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ต้องทำให้สถาบันพระมหากษัตริย์ดำรงอยู่ได้บนโลกใบนี้อย่างสง่างาม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image