‘ธนาธร’ น้อมรับความพ่ายแพ้ ฮึดประกาศแผน ปี 2564 นำคณะก้าวหน้า ปักธงความคิด ปฏิรูปกองทัพ-งานยุติธรรม-สถาบัน ชี้ ยังมีเลือกตั้งอีกหลายสนามรออยู่
เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 21 ธันวาคม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงภายหลังการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์เพจคณะก้าวหน้า ว่า ใน 42 จังหวัดที่คณะก้าวหน้าได้ส่งตัวแทนลงเข้าแข่งขัน เราไม่สามารถช่วงชิงมาได้สักจังหวัดเดียว พวกเราตั้งใจทำงานและตระหนักเป็นอย่างยิ่งว่า ปัจจัยนั้นเป็นเพราะเรายังทำงานไม่หนักพอ และไม่มีประสิทธิภาพมากพอ ตนขอใช้โอกาสนี้ขอโทษพี่น้องประชาชนที่สนับสนุนพวกเรา ในการเลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าเราจะไม่ประสบความสำเร็จเลย เพราะใน 42 จังหวัดที่เราส่งลงแข่งขันเราได้รับความไว้วางใจและคะแนนรวมทั้งหมด 2.6 ล้านคะแนน นอกจากนี้ เราได้สมาชิกสภา อบจ. 57 คน ใน 20 จังหวัด
นายธนาธรกล่าวต่อว่า เมื่อนำผลคะแนนจากการเลือกตั้งนายก อบจ. มาเทียบกับการเลือกตั้งในเดือนมีนาคม 2562 ใน 42 จังหวัดเช่นกัน พบว่าในปี 2562 การเลือกตั้งทั่วไปเมื่อเดือนมีนานั้นมีผู้มาใช้สิทธิ 19,629,451 คน พรรคอนาคตใหม่ได้รับคะแนน 3,183,163 ได้รับคะแนนนิยมร้อยละ 16.2 ส่วนในวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมามีผู้มาใช้สิทธิทั้งสิ้น 15,730,841 คน คณะก้าวหน้าได้คะแนน 2,670,798 คะแนน ได้รับคะแนนนิยมร้อยละ 17 จะเห็นว่าได้รับคะแนนดิบน้อยลง แต่ได้รับคะแนนนิยมมากขึ้นในขณะที่การเลือกตั้งในวันที่ 20 ธันวาคม เป็นที่รู้กันว่าไม่มีการเลือกตั้งนอกราชอาณาจักร และไม่มีการเลือกตั้งนอกเขต ดังนั้นคะแนนที่เราได้รับมา เราจึงมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
นายธนาธรกล่าวว่า คณะก้าวหน้าจะให้การสนับสนุนและคำแนะนำแก่สมาชิกสภา อบจ. ให้ทำงานเป็นปากเป็นเสียงแทนพี่น้องทุกท่านเพื่อตรวจสอบฝ่ายบริหาร ความภูมิใจของพวกเราต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ได้จบเท่านั้น เพราะเรายังเชื่อว่าเราได้เป็นส่วนหนึ่ง และเป็นส่วนสำคัญในการณรงค์ให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนเห็นถึงความสำคัญของการเมืองท้องถิ่น ซึ่งสำหรับพวกเราแล้วการเมืองท้องถิ่นกับการเมืองระดับชาติสำคัญไม่แพ้กัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจะเดินหน้าต่อไป เพื่อเรียกร้องให้เกิดการปฏิรูประบบราชการ และยุติการรวมศูนย์อำนาจ และราชการที่อยู่ราชการส่วนกลาง ซึ่งจะต้องทำไปจากข้างบนลงข้างล่างแล้วข้างล่างขึ้นข้างบน
นอกจากนี้ เรายังมีส่วนให้พี่น้องประชาชนเข้าใจอำนาจหน้าที่การทำงานของ อบจ. เพราะในรอบหลายเดือนที่ผ่านมาเราได้แสดงให้ทุกท่านเห็นว่าจริงๆ แล้ว อบจ. มีงบประมาณจำนวนมากซึ่งข้อมูลเหล่านี้พี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ไม่เคยได้รับทราบมาก่อน เนื่องจากประชาชนมีความเข้าใจและมีความสนใจน้อย จึงไม่ถูกตรวจสอบทำให้งบประมาณถูกใช้ไปอย่างไม่เป็นประสิทธิภาพสูงสุดเห็นได้จากทรัพย์สินของ อบจ. ที่ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างว่างเปล่า หนึ่งในนโยบายของเราก็คือการดึงศักยภาพต่างๆ เหล่านี้ขึ้นมาเพื่อให้พ่อแม่พี่น้องประชาชนเห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นการเมืองระดับชาติหรือว่าการเมืองท้องถิ่น สิ่งที่ต้องใช้ในการแข่งขันต้องเป็นเรื่องของนโยบาย เราพยายามทำนโยบายที่ดีให้พี่น้องประชาชน คณะก้าวหน้ามีนโยบายที่จับต้องได้และสามารถทำได้จริง ทั้งการศึกษา การเปิดพื้นที่ให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้มีพื้นที่แสดงออกในศักยภาพของตัวเอง และห่างไกลจากยาเสพติด นอกจากนี้ เรายังนำการเมืองใหม่มาทำเหมือนสมัยที่เราเป็นพรรคอนาคตใหม่ การเมืองใหม่ที่ว่านี้ก็คือการไม่ซื้อสิทธิซื้อเสียง เพราะเราไม่เชื่อว่าประชาธิปไตยจะดีขึ้นได้ดังนั้นเราจึงเลือกวิธีการทำงานเช่นเดิม
นายธนาธรกล่าวต่อว่า ทุกคนลองถามตัวเองดูว่าคนที่ซื้อสิทธิซื้อเสียงจะตั้งใจทำงานเพื่อประชาชนเป็นอันดับหนึ่งหรือไม่ เพราะพวกเราไม่เชื่อเช่นนั้น แน่นอนที่สุดพวกเราขอโทษที่ไม่สามารถเข้าไปเป็นนายก อบจ. ได้ แต่ได้แสดงเห็นถึงความตั้งใจที่จะสร้างการเมืองแบบใหม่ ดังนั้นทุกคะแนนที่พวกเราได้มาในรอบนี้ จึงเป็นคะแนนที่บริสุทธิ์และไม่ได้มาจากเครือข่ายผลประโยชน์ นี่คือสิ่งที่พวกเราภาคภูมิใจใน การทำงานตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาท่ามกลางอุปสรรคมากมาย หลายคนอาจจะตั้งคำถามว่าหลังจากนี้ต่อไปในปี พ.ศ.2564 เราจะก้าวเดินต่อไปอย่างไร
“สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ทำให้พวกเราท้อถอยหรือหยุดเดินไปข้างหน้า ผมและแกนนำคณะก้าวหน้าคนอื่นๆ รวมถึงผู้สมัครนายก และสมาชิกสภา อบจ. จะยังก้าวเดินต่อไป ทำงานเพื่อสร้างประเทศไทยที่ดีกว่านี้ อย่างไม่ย่อท้อ อย่างแรกที่สุดพวกเราจะสนับสนุน เสนอแนะ และช่วยตรวจสอบการทำงานของนายก อบจ. ที่ได้รับเลือกตั้งไปแล้ว ผ่านสมาชิกสภา อบจ. ของคณะก้าวหน้าที่ได้รับเลือกเข้าไป เราจะทำงานการเมืองในระดับพื้นฐาน ทั้งระดับเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ต่อไป เราตั้งใจอย่างยิ่งว่าจะนำนโยบายที่ทำมาแล้วไปทำต่อ เพื่อให้พี่น้องประชาชนเห็นว่าท้องถิ่นของท่านมีศักยภาพที่จะพัฒนาไปไกลมากกว่านี้ เราจะเดินหน้าต่อขับเคลื่อนในสิ่งที่เป็นพรรคอนาคตใหม่ โดยการปักธงทางความคิด ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การปฏิรูปกองทัพ การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม และการปฏิรูปสถาบันอย่างต่อเนื่อง และนั่นคือแนวทางการทำงานของพวกเราในปี 2564” นายธนาธรกล่าว
นายธนาธรกล่าวว่า การเดินทางหลายเดือนที่ผ่านมาทำให้พวกเราเรียนรู้และเติบโตมหาศาล เราจะเก็บเป็นประสบการณ์เพื่อใช้ในการขับเคลื่อนประเทศที่สวยงามต่อไป ขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคนที่ให้กำลังใจกับพวกเรา นี่เพิ่งจะผ่านมาแค่สองเลือกตั้งเท่านั้น ยังมีการเลือกตั้งอีกเยอะที่เราจะต้องผ่าน การสร้างประเทศไทยที่น่าอยู่ และเป็นประชาธิปไตยต้องใช้เวลาอีกยาวเดินไปด้วยกัน
ต่อมา นายธนาธรได้ตอบคำถามของสื่อมวลชนที่ส่งผ่านมาทางทีมงาน โดยคำถามแรก ถามว่า ผลคะแนนที่เกิดขึ้นถือว่าฐานของพรรคอนาคตใหม่เดิมลดลง และจะกระทบต่อการเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายธนาธร ตอบว่า คะแนนของเราไม่ได้น้อยลงจากการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ดังนั้น เราไม่ได้สูญเสียความมั่นใจ แต่จะเดินหน้าต่อไป ส่วนจะส่งผลต่อพรรคก้าวไกล หรือไม่นั้นเป็นหน้าที่ของพรรคก้าวไกลไปคิดวิเคราะห์ แต่พวกเราจะสรุปบทเรียนจากการเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม ขอเรียกร้องให้เปิดผลการเลือกตั้งรายหน่วยทันที
เมื่อถามว่า ผลคะแนนการเลือกตั้งที่ออกมาเป็นผลมาจากพูดถึงเรื่องปฏิรูปสถาบันหรือไม่ นายธนาธรกล่าวว่า ในสังคมไทยยังมีคนปวดใจเมื่อพูดถึงสถาบัน แต่อีกด้านหนึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนเรียกร้องถึงเรื่องนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่ามีผลกระทบแน่นอน แต่จะมีมากน้อยเท่าไหรต้องรอดูผลการเลือกตั้งรายหน่วย แต่ตลอดการเลือกตั้งเราถูกใส่ร้ายอย่างไม่เป็นธรรม เราเหมือนถูกหมัดมือและชกฝ่ายเดียว เราขอโทษตัวเราเองที่ยังอธิบายกับสังคมได้ไม่ชัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่นายธนาธร จะแถลงข่าวนั้นได้มีการโพสต์ข้อความลงทวิตเตอร์เพื่อยืนยันว่าไม่ได้มีการโพสต์ข้อความที่ระบุว่า “ผลการเลือกตั้ง อบจ.นี้แสดงให้เห็นว่าคนไทยยังไม่ยอมเปิดใจ และยังไม่พร้อมสำหรับอนาคตที่ดีกว่า” แต่อย่างใด โดยระบุว่าโพสต์ดังกล่าวเป็นข่าวปลอม
