‘ราเมศ’ เผยการยื่นถอดถอน ‘สิระ’ เป็นตามขั้นตอน ชี้ไม่อาจก้าวล่วงคำวินิจฉัยศาลรธน.ได้

‘ราเมศ’ เผยการยื่นถอดถอน ‘สิระ’ เป็นตามขั้นตอน ชี้ไม่อาจก้าวล่วงคำวินิจฉัยศาลรธน.ได้

เมื่อเวลา 12.25 น. วันที่ 22 มกราคม ที่รัฐสภา นายราเมศ รัตนะเชวง เลขานุการประธานรัฐสภา แถลงถึงกรณีที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย (สร.) ยื่นคำร้องต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร เพื่อให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยสมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของนายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) สิ้นสุดลงหรือไม่ ว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 15 มกราคม 2564 พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์กับ ส.ส.อีก 145 คน เข้าชื่อเสนอคำร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรเพื่อขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของนายสิระสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98 (10) หรือไม่ โดยอาศัยการยื่นผ่านช่องทางมาตรา 82 ของรัฐธรรมนูญ

เมื่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฏรทำตามขั้นตอนในทางธุรการ มีการตรวจคำร้องและลายมือชื่อของ ส.ส.ที่ได้เข้าชื่อแล้ว จำนวนครบถ้วนตามรัฐธรรมนูญ และมีลายมือชื่อที่ถูกต้อง มาตรา 82 วรรคหนึ่งกำหนดให้ประธานสภาผู้แทนราษฏรส่งคำร้องดังกล่าวไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณาวินิจฉัย เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผู้รับมอบอำนาจ ก็ได้เดินทางไปยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อวานนี้ (21 มกราคม) เวลา 15.00 น และวันเดียวกันก็ได้มีหนังสือแจ้งไปยังตัวแทนผู้ร้องคือ พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ เป็นที่เรียบร้อย

นายราเมศกล่าวต่ออีกว่า ขณะนี้ถือว่าคดีอยู่ในขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การแสดงความคิดเห็นใดๆ ก็ต้องใช้ความระมัดระวัง ประธานสภาผู้แทนราษฏรทำหน้าที่เป็นคนยื่นคำร้อง ด้วยความเป็นกลาง ตรงไปตรงมา ส่วนต่อจากนี้ ก็เป็นกระบวนการต่อสู้คดีในชั้นศาลของผู้ร้องที่แท้จริงคือพลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ กับคณะ และฝ่ายผู้ถูกร้องคือนายสิระ ก็ว่ากันไปตามกระบวนการ อยากให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นในกระบวนการของศาลรัฐธรรมนูญที่จะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย

“ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าในคำร้องนอกจากขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย สมาชิกภาพความเป็น ส.ส.ของนายสิระแล้ว ทำไมต้องมีคำขอให้ศาลมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ด้วย ประเด็นนี้เป็นหลักการปกติ เมื่อผู้ร้อง คือ พลตำรวจเอกเสรีพิสุทธิ์ ได้ยื่นคำขอดังกล่าวมาในหนังสือที่ยื่นต่อประธานสภาด้วย คำร้องก็ต้องใส่ประเด็นนี้ไปด้วย และตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง ก็ระบุไว้ชัดว่าเป็นอำนาจของศาลรัฐธรรมนูญที่มีคำสั่งให้หยุดปฎิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งประเด็นนี้ไม่อยากให้ไปก้าวล่วงดุลพินิจของศาลรัฐธรรมนูญ” นายราเมศกล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image