ครม.รับทราบปมเร่งรัดบรรจุราชการ – ประสานของบจ้างงานเพิ่ม ลดการว่างงานจากพิษโควิด

ครม. รับทราบปมเร่งรัดบรรจุราชการ พร้อมประสานสำนักงบฯ ของบมาจ้างงานเพิ่มเพื่อช่วยลดการว่างงานจากพิษโควิด

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 26 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.รับทราบการเร่งรัด สรรหาบุคลากรเข้าบรรจุราชการ และหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ในส่วนของสำนักงาน กพ. ซึ่งแนวทางในการดำเนินการสอบจะมีอยู่ 4 แนวทาง คือ

1.เพิ่มโอกาส และช่องทางการสมัคร โดย กพ.ได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษาเพื่อจัดสอบให้เสร็จสิ้นภายในกลางปีนี้ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับมาตรการทางด้านสาธารณสุขด้วย และเร่งรัดประกาศผลสอบภายในเดือนสิงหาคมนี้ นอกจากนี้ ยังมีการเพิ่มจำนวนที่นั่งสอบเพื่อรองรับผู้ที่สนใจจะสมัครสอบในปีนี้ด้วย

2.แนวทางที่จะเรียกบรรจุบุคคลเข้ารับราชการจากบัญชีต่างๆ โดย กพ. จะประสานกับหน่วยงานต่างๆเพื่อเร่งรัดบรรจุ ซึ่งขณะนี้ในบัญชีมีอยู่ 29,800 กว่าคน และจะประกาศอัตราว่างที่จะบรรจุเพิ่มเติมด้วย

3.การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการด้วยวิธีอื่นนอกเหนือจากกาสอบแข่งขัน เช่น ผู้ที่มีความรู้ความชำนาญสูง การรับโอนข้าราชการพลเรือนสามัญ หรือข้าราชการพนักงานตามกฎหมายอื่น และการบรรจุกรณีพิเศษอื่นๆด้วย

Advertisement

และ 4.สำรวจสถานะอัตราว่างของทุกส่วนราชการจำนวน 149 ส่วนราชการ เพื่อให้เห็นถึงสภาพข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ต้องจ้าง

นายอนุชา กล่าวอีกว่า สำหรับแนวทางการจ้างงานผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิดนั้นก็มีด้วย เช่น การจ้างพนักงานราชการตามกรอบกำลังนักงานราชการเพิ่มเติม ซึ่งคณะกรรมการบริหารพนักงานราชการได้มีการประชุมอนุมัติกรอบอัตรากำลังพนักงานราชการตั้งแต่ปี 64-67 จำนวน 219,800 กว่าอัตรา และอัตรากำลังพนักงานที่จะรองรับการทดแทนอัตราว่างจากการเกษียณอายุอีก 1309 อัตราด้วย

นอกจากนี้ ยังมีการหารือร่วมกับสำนักงบฯ เพื่อขอรับการสนับสนุนงบในการจ้างงานเพิ่มเติม ซึ่งหากได้รับงบฯตรงนี้แล้วจะเร่งดำเนินการตามกรอบที่เหมาะสม

Advertisement

นายอนุชา กล่าวต่อว่า ส่วนที่มีข่าวลือในโซเชียลมีเดียถึงกรณีที่ ครม. อนุมัติให้พนักงานราชการสามารถเกษียณอายุได้เกิน 60 ปีขึ้นไปนั้น ไม่เป็นข้อเท็จจริงทั้งหมด จากการประชุมเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 นั้น ครม.มีมติให้ผู้ที่จะได้รับการพิจารณาต้องเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการ ระดับเชี่ยวชาญ ทรงคุณวุฒิ หรือระดัทั่วไปตำแหน่งอาวุโส หรือระดับทักษะพิเศษ ซึ่งต้องเคยดำรงตำแหน่งนั้นๆมาแล้วม่น้อยกว่า 1 ปี มาเป็นคุณสมบัติในการพิจารณาให้รับราชการต่อ และต้องไม่กำหนดตำแหน่งเพิ่มใหม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image