พงศกร ชี้ ชงแก้ ม.112 ไม่ใช่ล้มสถาบัน มีทั้งฝ่ายค้าน-รัฐบาล ร่วมกันพิจารณาในสภา
เมื่อวันที่ 11 ก.พ.64 พล.ท.พงศกร รอดชมภู อดีตรองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก แสดงความเห็นกรณีพรรคก้าวไกลโดยมติพรรค เสนอให้มีการแก้ไข ม.112 โดยระบุว่า
อันนี้เรียนทำความเข้าใจกับฝ่ายขวาจัดนะครับ การแก้ไข ป.อาญา มาตรา 112 ไม่ได้เป็นการล้มล้างสถาบันฯ และผู้ที่จะร่วมกันพิจารณาก็จะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งปวงที่มีทั้งฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ซึ่งแน่นอนว่าฝ่ายรัฐบาลได้เปรียบ
แต่การยื่นขอแก้ไขนั้นจะเป็นจุดตั้งต้นให้ทุกฝ่ายหันมาดูประเด็นปัญหาที่แม้แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็มีความหนักใจและประชาชนทั่วไปถูกละเมิดสิทธิ เช่น ถูกขังจนพบภายหลังว่าไม่มีความผิด แต่บางรายก็เสียชีวิตไปก่อนมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่ามีความผิดหรือไม่
ประเด็นที่สำคัญที่สุดในช่วงระยะเวลาก่อนหน้ายุคสมัยนี้นั้นได้มีการนำมาตรานี้มาเป็นเครื่องมือทางการเมือง และฟ้องร้องกันวุ่นวายทำให้วัตถุประสงค์ของกฎหมายมาตรานี้บิดเบือนไป ทั้งมีโทษขั้นต่ำสูงจนไม่สามารถประกันตัวมาหาหลักฐานในการสู้คดีได้
ด้วยเหตุนี้ การแก้ไขที่หลักการมุ่งที่จะสร้างความสงบ เรียบร้อยให้กับสังคม จึงควรไม่มีโทษขั้นต่ำ อัตราโทษไม่สูงเกินไปและมีหน่วยงานรับผิดชอบในการพิจารณาฟ้องอย่างเป็นทางการเสีย สังคมก็จะปกติสุข
คำถามว่าเป็นการล้มล้างสถาบันฯหรือไม่ คำตอบก็บังคับไว้ในรัฐธรรมนูญแล้วว่าไม่สามารถเปลี่ยนรูปแบบการปกครองได้
กฎหมายมาตรานี้ใช่ว่าจะไม่เคยแก้ไข ได้มีการเปลี่ยนแปลงมาหลายครั้งแล้ว
กฎหมายยังคงอยู่ ใครละเมิดด้วยการจงใจในเรื่องที่ไม่เป็นประโยชน์สาธารณะก็ยังคงมีความผิด ใครที่วิจารณ์โดยสุจริตก็ไม่ควรมีความผิด การวิจารณ์กับการดูหมิ่นและหมิ่นประมาทนั้นต่างกัน แม้ในกฎหมายหมิ่นประมาทธรรมดาก็มีความผิดเช่นเดียวกัน
ดังนั้นการแตะต้องสถาบันฯ เพื่อสร้างสรรค์ เพื่อความสงบเรียบร้อย เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างผาสุก และเพื่อรักษาสถาบันฯมิให้ใครแอบอ้างทำให้เสื่อมเสีย จึงเป็นสิ่งที่คนไทยทุกคนควรจะร่วมกันสร้างเพื่อเป็นกติกาที่เหมาะสมมิใช่หรือครับ