‘ที่ปรึกษาก้าวไกล’ ยัน ส.ส.ไม่ลงชื่อแก้ 112 แค่ความเห็นต่าง ไม่ใช่งูเห่า

‘ที่ปรึกษาก้าวไกล’ ยัน ส.ส.ไม่ลงชื่อแก้ 112 แค่ความเห็นต่าง ไม่ใช่งูเห่า ย้ำจุดยืนพรรค ‘เจ้านายคือประชาชน’

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ยื่นเสนอแก้ไขชุดกฎหมายคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของประชาชนที่รวมถึงมาตรา 112 เมื่อวานนี้ (10 กุมภาพันธ์) และมีการตั้งคำถามว่า เหตุใดจึงมีสมาชิก 9 คน ไม่ร่วมลงชื่อเสนอแก้ไขในร่างกฎหมายด้วยนั้น

นายอำนาจ สถาวรฤทธิ์ ที่ปรึกษาพรรค ก.ก. และกรรมการวินัยและจรรยาบรรณ กล่าวว่า ก่อนจะมาถึงการยื่นร่างกฎหมายชุดนี้ต่อประธานสภา อยากอธิบายให้เข้าใจถึงที่มาและกระบวนการในการร่างกฎหมายชุดนี้ ซึ่งเราเข้าใจดีว่าเป็นเรื่องที่มีความอ่อนไหวและมีมุมมองที่หลากหลายมากเกิดขึ้นในสังคมโดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ ทำให้กว่าจะออกมาเป็นร่างกฎหมาย จึงมีการพูดคุยภายในกันมาตลอดเป็นเวลานานหลายเดือนและหลายครั้งเพื่อทำความเข้าใจกัน รวมทั้งก่อนที่จะมีการยื่นร่างกฎหมายต่อสภา ตนก็ได้พูดคุยโดยตรงกับผู้ที่ไม่ได้ลงชื่อเกือบทุกคน จึงรับทราบและเข้าใจดีถึงเหตุผลที่แตกต่างกันไป เช่น บางคนยังขอสงวนสิทธิ์ไว้เพราะเรื่องเทคนิคหรือรายละเอียดทางกฎหมายที่อาจยังมองต่างกัน บางคนมีเงื่อนไขการทำงานในพื้นที่เลือกตั้ง ซึ่งทุกคนรับรู้ในรายละเอียดว่ามีจำนวนรายชื่อที่เพียงพอต่อการเสนอแก้ไขกฎหมายแล้ว จึงขอใช้เอกสิทธิ์ในการตัดสินใจ

“สิ่งเหล่านี้สะท้อนถึงวัฒนธรรมประชาธิปไตยภายในพรรค ก.ก. ที่เราทำกันมาตลอด ในฐานะกรรมการวินัยและจรรยาบรรณของพรรค ยืนยันว่ากรณีนี้ไม่ใช่ งูเห่าภาคสอง เพราะมีลักษณะที่แตกต่างไปจากการขับ 4 ส.ส.พ้นพรรคในสมัยที่ยังเป็นพรรคอนาคตใหม่อย่างสิ้นเชิง บุคคลในกรณีเหล่านั้น มีการกระทำที่ทำให้พรรคเสียหาย มีลักษณะของการว่าร้ายและป้ายสี ทำให้เพื่อนสมาชิกและพรรคถูกตั้งคำถามด้วยข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงต่อสาธารณะ ซึ่งหากมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นก็จะต้องดำเนินการในลักษณะเดียวกัน แต่ในครั้งนี้เป็นเรื่องความคิดเห็นแตกต่างกันภายในพรรค” นายอำนาจกล่าว

สิ่งที่พรรคจะทำต่อไปหลังจากนี้ก็คือการทำงานทางความคิดเพื่ออธิบายการตัดสินใจของพรรคต่อสังคมให้มากขึ้น เพราะถึงแม้ ส.ส.ทั้ง 9 คน จะไม่ได้ร่วมลงชื่อ แต่ส่วนใหญ่เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า มาตรา 112 เป็นกฎหมายที่มีปัญหามาก โดยเฉพาะในระยะหลังที่มีเยาวชนถูกดำเนินคดีมากขึ้นเรื่อยๆ มีการพิพากษาคดีด้วยอัตราโทษที่สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ มีเสียงเรียกร้องที่ดังขึ้นจากขบวนผู้ชุมนุมที่ต้องยอมรับว่าอาจมีข้อเสนอไปไกลกว่าสิ่งที่พรรคได้เสนอไว้ รวมทั้งยังมีเสียงสะท้อนที่แสดงความกังวลออกมาในระดับนานาชาติไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือสหประชาชาติ

Advertisement

นายอำนาจกล่าวว่า ดังนั้น สิ่งเหล่านี้จึงเป็นหน้าที่ที่พรรค ก.ก.และ ส.ส. ในฐานะผู้แทนของราษฎรจะต้องรับฟังและไม่กลัวต่อการรับรู้ในมโนธรรมสำนึกของตัวเอง เพื่อทำหน้าที่ปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชน เพราะถึงแม้ว่าการเสนอแก้ไขมาตรา 112 จะไม่ใช่จุดยืนมาแต่แรกในการก่อตั้งพรรคการเมืองซึ่งตอนนั้นคือพรรคอนาคตใหม่ก็ตาม แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเราได้ชูหลักการ ‘เจ้านายของเราคือประชาชน’ เป็นธงนำพรรคมาโดยตลอด เมื่อประชาชนซึ่งเป็นเจ้านายเรียกร้องถึงความเปลี่ยนแปลงและกำลังเผชิญหน้ากับความอยุติธรรมต่างๆ นานา ในฐานะพรรคการเมืองจึงจำเป็นที่จะต้องกล้าหาญในการนำเสียงของประชาชนมาขับเคลื่อนต่อไปในสภา ภายใต้ปัจจัยที่พอจะคุยและยอมรับกันได้ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง อย่างไรก็ตาม เรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างกันของ ส.ส. สมาชิกพรรค และมวลชนผู้ให้การสนับสนุนพรรค ก็ขอเรียกร้องให้ทุกคนนำความคิดเห็นมาพูดกันภายในพรรค เพื่อความสามัคคี เป็นเอกภาพภายในพรรค เราจะร่วมสู้ไปด้วยกัน เพื่อสร้างสังคมอันงดงาม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image