อนุทิน รอพปชร.ฟัน7ส.ส.โหวตสวนมติพรรค ‘สุชาติ’ ยก ส.ส.มีเอกสิทธิ์โหวต เตือนลงโทษระวังขัดรธน.

‘เสี่ยหนู’ รอพปชร.ฟัน7ส.ส.กลุ่มดาวกฤษ์ โหวตสวนมติพรรค ‘สุชาติ’ ยก ส.ส.มีเอกสิทธิ์โหวต เตือนลงโทษระวังขัดรธน.

เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีกลุ่มส.ส.ดาวฤกษ์ของพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) สวนมติพรรคงดออกเสียงโหวตไม่ไว้วางใจให้กับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมกลายเป็นประเด็นร้อนในพรรคพปชร. และทำให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่พอใจ

ล่าสุด พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ถึงการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง 7 ส.ส. ที่โหวตสวนมติพรรคงดออกเสียงในการลงมติไว้วางใจนายศักดิ์สยามว่า ให้รอคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เมื่อถามว่า จะลงโทษถึงขั้นไหน พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่รู้ๆŽ

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ให้สัมภาษณ์กรณีหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจถึงเวลาที่หัวหน้าและแกนนำพรรคร่วมมานั่งพูดคุยกันหรือยังว่า เดี๋ยวจะติดโควิดหรือไม่ ให้ทิ้งเวลาไปช่วงหนึ่งก่อน ให้โควิดบรรเทาลงก่อน ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังเกิดปัญหาในการลงมติ ส.ส.กลุ่มดาวฤกษ์ได้ติดต่อมาบ้างหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ทำไมต้องมาติดต่อ มีกรรมการตรวจสอบอยู่แล้ว เมื่อถามถึงการลงโทษ ส.ส.ที่ไม่ปฏิบัติตามมติพรรคมีบทลงโทษขั้นต่ำสุดและสูงสุดอย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ให้คณะกรรมการสอบสวนเสนอมา เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประวิตรคุมสถานการณ์ในพรรค พปชร.อยู่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรปฏิเสธที่จะตอบคำถามดังกล่าว

สุชาติยกส.ส.มีเอกสิทธิ์โหวต
นายสุชาติ ตันเจริญ ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรค พปชร. ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวถึงกรณี ส.ส.ลงมติในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลไม่เป็นไปตามมติพรรค และแต่ละพรรคมีการตั้งกรรมการสอบสวนว่า ประเด็นนี้ไม่ควรมองในมิติเสถียรภาพของรัฐบาล ความเป็นเอกภาพของฝ่ายค้าน หรือมารยาททางการเมืองเพียงอย่างเดียว จำเป็นต้องมองในมุมของหลักการ และเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญต่อการทำหน้าที่ของ ส.ส.ด้วย รัฐธรรมนูญ 2560 ได้บัญญัติเกี่ยวกับความเป็นอิสระ และเอกสิทธิ์ของ ส.ส.ไว้ในหลายส่วน

Advertisement

อาทิ มาตรา 114 ที่ระบุว่า ส.ส.ย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงําใดๆ ขณะที่มาตรา 124 ก็ระบุว่า ในที่ประชุมสภาที่ประชุมวุฒิสภา หรือที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา สมาชิกผู้ใดจะออกเสียงลงคะแนน ย่อมเป็นเอกสิทธิ์โดยเด็ดขาด ตลอดจนข้อบังคับสภา ข้อ 178 วรรคหนึ่ง ก็ได้กำหนดไว้สอดคล้องกัน คือ ทั้งในการอภิปราย หรือการลงมติ สมาชิกของพรรคการเมืองย่อมมีอิสระไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงำใดๆ เพื่อเป็นหลักประกันในการทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนของปวงชนชาวไทย ที่ต้องมีอิสระ เป็นหลักการทั่วไปของการปกครองระบอบประชาธิปไตย

เตือนลงโทษระวังขัดรธน.
นายสุชาติกล่าวต่อว่า การดำเนินการของพรรคการเมืองเพื่อสอบสวน ส.ส.ที่ไม่ลงมติตามมติพรรคนั้นสามารถกระทำได้ภายใต้ข้อบังคับของพรรคการเมืองนั้นๆ เพื่อแสวงหาเหตุผลที่ ส.ส.ไม่ปฏิบัติตามมติพรรค และนำไปชี้แจงต่อประชาชน รวมทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบ ในกรณีฝ่ายรัฐบาล อาจจะเป็นเพราะรัฐมนตรีผู้นั้นชี้แจงข้อกล่าวหาได้ไม่ชัดเจน ก็เป็นรัฐมนตรี หรือพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล ต้องดำเนินการชี้แจงเพิ่มเติม ด้าน ส.ส.ฝ่ายค้าน อาจมองรัฐมนตรีชี้แจงได้ชัดเจนดีแล้วจึงลงมติไว้วางใจให้ เป็นต้น

ส่วนการจะสอบสวนเพื่อนำไปสู่การลงโทษ ข้อบังคับของแต่ละพรรคกำหนดโทษสูงสุดถึงขั้นขับออกจากพรรคนั้น ควรต้องพึงระวังว่าอาจจะขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 เข้าข่ายการกระทำที่ไม่เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด หรือเป็นลักษณะที่ยินยอมให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่สมาชิกควบคุม ครอบงำ หรือชี้นำกิจกรรมของพรรคการเมืองหรือไม่ ยกตัวอย่าง หากใช้เหตุผลว่าพรรคร่วมรัฐบาลไม่พอใจ แล้วมาสอบสวนหรือลงโทษ ส.ส.ที่สังกัดพรรคตัวเอง อาจเข้าข่ายคนนอกครอบงำ เป็นเหตุให้นำไปสู่การร้องขอให้ยุบพรรคการเมืองนั้นได้

Advertisement

อนุทิน ยังคาใจรอดูโทษ7ส.ส.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้สัมภาษณ์กรณีพรรค พปชร.มีมติตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี 7 ส.ส.ของพรรคโหวตส่วนมติพรรคถือเป็นที่พอใจของพรรค ภท.หรือไม่ว่า เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ของพรรคแสดงท่าทีออกมาแล้ว ดังนั้นจึงต้องรอผลการตรวจสอบว่าออกมาเป็นเช่นไร แต่ไม่ใช่ไปตั้งหน้าตั้งตารอเรื่องนั้น เพราะต้องทำงาน

เมื่อถามว่าเมื่อมีท่าทีออกมาเช่นนี้ พรรค ภท.หายติดใจหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ยังๆ ต้องมีการกระทำก่อนŽ เมื่อถามย้ำว่าการกระทำที่ว่าต้องมีลักษณะเช่นใด นายอนุทินกล่าวว่า ไม่ทราบเพราะไม่ได้เป็นคนทำ เมื่อถามว่าได้พูดคุยประเด็นนี้กับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.แล้วหรือยัง นายอนุทินกล่าวว่า ก็มีการพูดคุยกันว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ มันไม่ควรเป็นแบบนี้ ส่วนการจัดการจะเป็นอย่างไร พล.อ.ประวิตรบอกว่า เดี๋ยวพี่จัดการเอง ต้องเคารพตรงนั้น

ยันภท.มีสปิริตยึดมติพรรค
เมื่อถามย้ำว่าสมมุติเกิดกรณี ส.ส.ของพรรค ภท. โหวตสวนมติในเรื่องสำคัญเช่นนี้ พรรค ภท.จะดำเนินการอย่างไร นายอนุทินกล่าวว่า มันไม่เกิดและไม่มีทางเกิดขึ้นได้ตราบใดที่เป็นหัวหน้าพรรค เพราะพรรคต้องไปด้วยกันและจะต้องมีการพูดคุยกันก่อนที่จะลงมติใดๆ ใครไม่พอใจก็ว่ากันไปตรงนั้นแต่ต้องเคารพมติพรรค มีวิธีหลายอย่าง แม้ ส.ส.จะมีเอกสิทธิ์ แต่ด้วยมารยาทของการร่วมรัฐบาล หากใครไม่พอใจก็ต้องพูดคุยกันสุดท้ายก็ต้องเคารพมติพรรคและโหวตตามพรรคก่อน แต่สามารถไปแถลงจุดยืนว่าไม่เห็นด้วยในภายหลังได้ แต่ต้องดำเนินการตามมติพรรคก่อน ถือว่าเป็นสปิริต

ลั่นป้องเกียรติเลขาฯพรรค
ต่อมาที่พรรค ภท. นายอนุทินในฐานะหัวหน้าพรรค ภท. กล่าวในที่ประชุมกับ ส.ส.พรรคว่า ในส่วนของตนได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจ เป็นเพียงสัญลักษณ์หนึ่งของพรรค คือผลงานของพรรคที่ได้ร่วมทำงานกันมา ยอมรับว่าลืมเช็กให้ดี และนึกไม่ถึงว่าจะมีการกระทำที่ผิดมารยาท และไม่เป็นไปตามข้อตกลงของพรรคร่วมรัฐบาล คือ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และเลขาธิการพรรค ภท. ถูกงดออกเสียงไป 6 เสียง พรรค ภท.ถือเป็นเรื่องใหญ่มาก พรรค พปชร.ต้องมีคำอธิบาย และมีการดำเนินการ เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับนายศักดิ์สยาม หากไม่มีการงดออกเสียงเท่ากับนายศักดิ์สยามจะได้คะแนนเสียง 274 เสียง ถือว่ามีความหมายเป็นอย่างยิ่งสำหรับความรู้สึกของประชาชน อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เกิดขึ้นแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่สามารถให้ใครมาลบหลู่ได้ หากจะไม่ไว้วางใจ ต้องไม่วางใจทั้งพรรค ต้องมีการพูดคุยกันก่อนภายในพรรค รวมทั้งภายในคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ที่จะต้องตกลงกันก่อนและเห็นสมควรต่อไป ทั้งนี้ไม่ต้องไปทำอะไร เพราะผู้ใหญ่ทั้งสองพรรคได้พูดคุยกันแล้ว ทุกคนมีวุฒิภาวะ มีสปิริตของการเป็น ส.ส. และพรรคร่วมรัฐบาล

ก.ก.ฟัน4งูเห่าโหวตสวน
ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีการประชุมคณะกรรมการวินัยและจรรณยาบรรณสมาชิกพรรคก้าวไกล ครั้งที่ 2/2564 โดยนายณัฐวุฒิ บัวประทุม รองหัวหน้าพรรค ก.ก. กล่าวว่า ในการลงมติตามญัตติอภิปรายไม่ไว้วางในรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล มี ส.ส. 4 คน ได้แก่ นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ นพ.เอกภพ เพียรพิเศษ ส.ส.เชียงราย นายพีรเดช คำสมุทร ส.ส.เชียงราย และนายขวัญเลิศ พานิชมาท ส.ส.ชลบุรี ลงมติไว้วางใจ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นหนึ่งในรัฐมนตรีที่พรรค ก.ก. เป็นผู้อภิปราย คณะกรรมการวินัยทั้ง 5 คน มีความเห็นในทิศทางเดียวกันว่าสมาชิกทั้ง 4 คน มีการให้ข้อมูลต่อสาธารณะและสื่อมวลชนเพิ่มเติมในหลายครั้งหลายวาระ ที่ส่งผลเสียหายต่ออุดมการณ์และแนวทางทำงานของพรรค

นอกจากนี้ยังพบว่าสมาชิกทั้ง 4 คน ขาดการร่วมกิจกรรมต่างๆ ของพรรค พฤติกรรมเหล่านี้เข้าข่ายผิดวินัยร้ายแรงตามข้อบังคับพรรค ข้อ 119 คณะกรรมการวินัย เห็นตรงกันว่าให้ตัดสิทธิที่พึงมีในฐานะสมาชิกพรรคการเมือง จะไม่ส่งสมาชิกทั้ง 4 คน รับสมัครเลือกตั้งครั้งถัดไป และจะดำเนินการตามระเบียบพรรคเพื่อให้ถอด นพ.เอกภพ ออกจากการเป็นรองเลขาธิการพรรค นอกจากนี้พรรคไม่อนุญาตให้สมาชิกทั้ง 4 คน เข้าร่วมกิจกรรมและไม่อนุญาตให้ใช้ชื่อพรรคในการทำกิจกรรมต่างๆ ทางการเมือง รวมถึงส่วนที่เป็นโควต้าเวลาของพรรคการเมือง เช่น การปรึกษาหารือ การตั้งกระทู้ถามสด การเป็นกรรมาธิการ (กมธ.) คณะต่างๆ หรือการอภิปรายในสัดส่วนโควต้าของพรรค

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image