‘แรมโบ้’ ขอ ‘กลุ่มเยาวชนปลดแอก’ ทบทวนก่อนเดินขบวนไปบ้านพักนายกฯ เพราะผิดกฎหมาย

“แรมโบ้” ขอ “กลุ่มเยาวชนปลดแอก” ทบทวนก่อนเคลื่อนไหวเดินขบวนไปบ้านพักนายกฯ เพราะผิดกฎหมาย สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ขณะเดียวกันยังเป็นการทำลายบรรยากาศบ้านเมืองในขณะนี้ที่กำลังไปได้ดี

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงที่ กลุ่มเยาวชนปลดแอก นัดเคลื่อนไหวจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปยังบ้านพัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ในวันนี้ ว่า ขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมคิดทบทวนให้ดีก่อนที่จะเคลื่อนไหว เพราะเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรไปมา อีกทั้งที่ผ่านมากลุ่มผู้ชุมนุมก็ไม่เคยชุมนุมให้เป็นไปตามกฎหมายเลย การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ถือว่าไม่เป็นผลดีทั้งกับผู้ชุมนุมหรือประชาชนเลย อีกทั้ง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลก็ออกมาแสดงความเป็นห่วง เรื่องของการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง เนื่องจากการชุมนุมที่ผ่านมาพบว่ามีการใช้วัตถุระเบิดมากขึ้น อีกทั้งข้อความที่มีการเชิญชวนก็คล้ายต้องการสื่อให้เห็นว่าอาจมีสถานการณ์บางอย่างเกิดขึ้นด้วย ดังนั้นตนเองจึงอยากขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมคิดทบทวนการเคลื่อนไหวในครั้งนี้ด้วย

นายสุภรณ์กล่าวว่า ขณะนี้บ้านเมืองอยู่ในช่วงเวลาของการแก้ไขปัญหาจากสถานการณ์โควิด-19 และกำลังเดินหน้าไปได้ด้วยดี นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลพยายามหามาตรการต่างๆ มาช่วยเหลือประชาชนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ขณะเดียวกันผู้ที่ติดเชื้อในประเทศ มีจำนวนลดลง และไทยได้วัคซีนโควิด-19 มาแล้ว จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดกลุ่มผู้ชุมนุมถึงอยากจะทำลายบรรยากาศที่ดีในขณะนี้ และอยากจะให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนเพิ่มมากขึ้นอีก ทั้งนี้การนัดชุมนุมกันยังเป็นการรวมตัวของคนหมู่มาก ที่อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิดขึ้นได้อีกด้วย ซึ่งขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมมีสำนึกตรงนี้ด้วย

“หลายจุดที่มีการไปชุมนุม มีการปาระเบิดปิงปอง มีการปาก้อนอิฐหรือใช้ไม้ไล่ตีใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับบาดเจ็บมากมายหลายนาย แถมยังทำลายรถหรือทรัพย์สินของราชการได้รับความเสียหายอีกด้วย จึงตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มผู้ชุมนุมไม่ได้ชุมนุมอย่างสงบสันติ แต่กลับมีเจตนาสร้างความรุนแรงหรือยั่วยุเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา ตั้งใจทำผิดกฎหมาย จนเจ้าหน้าที่ต้องบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มที่ทำผิดอย่างเคร่งครัดไม่เช่นนั้นจะมีความผิดละเว้น การปฎิบัติหน้าที่ได้ จึงขอเตือนผู้ชุมนุมว่า บ้านเมืองต้องมีขื่อมีแป ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนที่ไร้กฎหมาย คิดอยากจะทำผิดอย่างไรก็ได้ ตามอำเภอใจเช่นนั้นคงไม่ได้ จึงขอร้องว่า อย่าได้เคลื่อนไหวหรือชุมนุมสร้างความรุนแรงวุ่นวายอีกเลย ยิ่งแต่จะสร้างความเสียหายต่อบ้านเมืองและทำให้ประชาชนที่ทำมาหากินใช้รถใช้ถนน พลอยได้รับผลกระทบเดือดร้อนไปด้วย” นายสุภรณ์กล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image