“เพื่อไทย” เสนอยุทธศาสตร์ยกระดับผลิตผลเกษตรสู่อาหารปลอดภัยส่งสู่ตลาดโลก พลิกวิกฤตโควิดเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
เมื่อเวลา 11.20 น. วันที่ 1 มีนาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ที่ปรึกษาแพลตฟอร์ม Think เพื่อไทย นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และประธานนโยบายการเกษตรพรรคพท. นพ.บัญชา แดงเนียม เลขาธิการสมาคมเซลล์บำบัดไทย เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟกระทะเหล็ก ระดับมิชลินสตาร์สองดาว นายภานุเมศวร์ เศรษฐสิริสุนทร รองผู้อำนวยการบริหาร สถาบันนวัตกรรมปัญญาประดิษฐ์ นายพิเชษฐ์ จันทรทิพรักษ์ President of Virtual ผู้ริเริ่มและพัฒนาระบบ Virtual ในประเทศไทย พร้อมด้วยผู้บริหาร และส.ส.ของพรรคพท. ร่วมแถลงถึงแนวทางการพัฒนานโยบาย Covid safe Food โดยทีมคิดเพื่อไทยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19
โดยนพ.พรหมมินาร์ กล่าวว่า ขณะนี้ หลายประเทศกำลังเผชิญกับวิกฤติการณ์ปนเปื้อนเชื้อไวรัส กระทั่งมีการปิดโรงงานอาหารในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ผู้บริโภคส่วนใหญ่เกิดความไม่มั่นใจในการเลือกรับประทานอาหาร พรรคพท. โดยทีม Think คิดเพื่อไทย มองเห็นโอกาสในวิกฤติครั้งนี้ที่จะเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรไทย โดยเล็งเห็นความสำคัญของประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเกษตรกรรม ที่สามารถผลิตอาหารและส่งออกไปทั่วโลกมาเป็นเวลานานจนได้รับการยอมรับว่าเป็นครัวของโลก
อีกทั้งอาหารไทยก็เป็นที่นิยมและชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั่วโลกอย่างไม่เคยเสื่อมคลาย ซึ่งนำมาสู่ยุทธศาสตร์สำคัญในการยกระดับผลิตผลทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์อาหารที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยจากการปนเปื้อนของไวรัสโควิด-19 และการพัฒนานโยบาย Covid safe Food ให้สามารถส่งออกผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์อาหารของไทยไปได้ทั่วโลก ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกร นำเอาผู้รู้เทคโนโลยีมาช่วยชาวบ้านและช่วยปรับแปลงกระบวนการการผลิตอาหารต่างๆ อีกทั้งยังช่วยรักษาคุณค่าทางอาหารเอาไว้ด้วย ซึ่งเป็นจุดแข็ง
ทั้งแหล่งวัตถุดิบสามารถรับประกันได้ว่ามาจากที่ไหนและมีความปลอดภัยแน่นอน สุดท้ายก็เข้าสู่ตลาดระบบดิจิทัล โลกทั้งโลกเป็นตลาดของเรา กระบวนการเหล่านี้เป็นการคิดถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวเริ่มต้น ไม่ติดกับอยู่กับข้อจำกัด และมีเจตนาให้เศรษฐกิจไทยดีขึ้น สุดท้ายนี่เป็นเพียงโมเดล หากรัฐบาลเข้าใจก็น่าจะนำไปส่งเสริม แต่อย่าทำเลอะ อย่างหมอชนะ หากทำไม่ได้ ประชาชนกับประชาชนสามารถทำได้ นี่เป็นตัวอย่างที่สำคัญ เป็นศักยภาพของพรรคพท. ที่เกิดจากทุกภาคส่วนร่วมมือกัน
นายวรวัจน์ กล่าวว่า Covid Safe Food มีเป้าหมายที่จะยกระดับผลิตผลเกษตรสู่การเป็นอาหารปลอดภัยระดับโลก เบื้องต้นเลือกใช้เทคโนโลยีเยือกแข็งในการถนอมอาหารกับ พืช ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ข้าว เส้น ที่อยู่ในแหล่งผลิตในจังหวัดต่างๆ ให้เข้าสู่กระบวนการถนอมอาหารตั้งแต่ต้นทาง รวมถึงสนับสนุนเชฟไทย ให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการอาหาร Street Food ผลิต Street Food ซอส ด้วยเทคโนโลยีเยือกแข็ง ทำให้ผู้บริโภคหรือร้านอาหารสามารถเลือกซื้อวัตถุดิบแยกส่วนประเภทต่างๆ จากแหล่งผลิตได้โดยตรง
หรือบนแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนของไวรัสโควิด-19 ในเส้นทางการผลิตอาหารตั้งแต่ต้นทางจนถึงผู้บริโภคปลายทางทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งภายใต้แนวคิดการใช้เทคโนโลยีเยือกแข็งนั้นจะทำให้เกษตรกรสามารถเก็บรักษาผลผลิตได้ยาวนานมากขึ้นและสามารถนำไปจำหน่ายในช่วงที่ผลผลิตขาดแคลน ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกันราคาวัตถุดิบจะไม่ปรับตัวขึ้นสูงมากในระหว่างปีอีกด้วย
ด้านนพ.บัญชา กล่าวว่า กระบวนการเยือกแข็งที่นำมาใช้สามารถยืดอายุการเก็บรักษาอาหารได้ยาวนานโดยไม่ต้องใช้สารกันบูด ผงชูรส หรือสารเคมีใดๆ และจะสามารถรักษาคุณค่าทางอาหารให้ยังคงอยู่มากกว่าร้อยละ 90 อีกทั้งยังสามารถพัฒนาเป็นอาหารเพื่อส่งเสริมสุขภาพตามกรุ๊ปเลือด เพิ่มภูมิต้านทาน ลดปัญหาเรื่องภูมิแพ้ ที่เป็นปัญหาของคนไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบัน อาหารจะคงความสดใหม่ อร่อยเหมือนเพิ่งปรุงเสร็จจริง
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในงาน เชฟชุมพล ซึ่งเป็นทูตอาหารเพื่อความยั่งยืน ขององค์การสหประชาชาติ ได้สาธิตการประกอบอาหารจากผลิตภัณฑ์แช่แข็ง จากวัตถุดิบในประเทศไทย ที่สามารถรักษาความสดและอร่อยเหมือนเพิ่งปรุงเสร็จใหม่ เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมความนิยมการใช้วัตถุดิบจากเกษตรกรไทยไปยังผู้บริโภคทั่วโลกด้วย
นอกจากนี้ นายภานุเมศวร์ ได้สาธิตการใช้เทคโนโลยีแอปพลิเคชัน Safe T แพลตฟอร์มปัญญาประดิษฐ์ สำหรับดูแล ติดตาม บุคลากรที่ทำงานในสถานประกอบการด้านอาหาร ไม่ให้สัมผัสกับกลุ่มเสี่ยง ขณะที่ นายพิเชษฐ์ ได้นำเสนอแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Taste Safe Digital Live Mall & Living Museum Company หรือห้างสรรพสินค้าเสมือนจริงของผู้ประกอบการที่สามารถพบปะ เจรจา ต่อรอง พูดคุย ซื้อขายสินค้ากับผู้ซื้อสินค้าจากทั่วโลก ด้วย
