ชาวใต้ ร้องสอบจริยธรรมกมธ.ขุดคลองไทย หลังพบเอกสารส่อทุจริต ชี้ไม่ได้ทำเพื่อปชช. อาจก่อความขัดแย้งครั้งใหญ่ในภาคใต้
เมื่อเวลา 10.40 น. วันที่ 3 มีนาคม ที่รัฐสภา นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัฒร์, นายปริญญา ช่วยเกตุ คีรีรัตน์ และนายสมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นำชาวบ้านเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนเกี่ยวกับการตรวจสอบจริยธรรมของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญศึกษาการขุดคลองไทยและระเบียงเศรษฐกิจพิเศษถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่านนพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผุ้แทนราษฎร
โดย นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า จากกรณีที่นายประสิทธิชัย หนูนวล นักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมชาวพัทลุง ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในกมธ.ชุดนี้มาแล้วและหลังจากได้ร่วมประชุมหลายครั้ง ก็ทราบถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง จึงได้ลาออกไป
นายประสิทธิชัย กล่าวว่า กรณีนี้เป็นกรณีสำคัญของภาคใต้หลังจากที่ได้หารือกันใน 5 จังหวัดที่อยู่ในเขตเศษฐกิจพิเศษภาคใต้ คือ ตรัง กระบี่ นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา ซึ่งได้มีการจัดรับฟังความเห็นเพื่อพูดคุยเรื่องการขุดคลองไทย โดยได้มีการเสนอพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขุดคลองไทยและเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ขึ้น ที่เกิดขึ้นจากกมธ. วิสามัญศึกษาการขุดคลองไทยและระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ซึ่งแต่งตั้งโดยสภาผู้แทนราษฎร ตลอดระยะเวลาทำงานของกมธ.ควรต้องมีการศึกษาเพื่อหาความกระจ่างให้สังคม แต่หลายพฤติกรรมของกมธ.ได้มีเหตุที่เชื่อได้ว่าขัดต่อจริยธรรมของส.ส.และกมธ. ซึ่งการศึกษาของกมธ.ควรศึกษาด้วยความเป็นกลาง แต่ปรากฏว่าทั้งที่ปรึกษาและอนุฯ กมธ.หลายคนสนับสนุนและผลักดันการเกิดคลองไทยมาโดยตลอดทำให้การศึกษาของกมธ.ชุดนี้เต็มไปด้วยอคติ
นายประสิทธิชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้การแต่งตั้งบุคคลเข้ามาร่วมในกมธ.หรืออนุฯ กมธ.ต้องเป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมซื่อตรง แต่พบว่าเอกสารหลายชิ้นของผู้ที่สนับสนุนการขุดคลองไทยเป็นเอกสารชวนเชื่อ ที่ส่งไปยังภาคใต้ในพื้นที่ 5 จังหวัด อ้างว่า การขุดคลองไทยจะจ้างงานได้นับล้านคน การขุดคลองไทยจะช่วยแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้ เอกสารทั้งหมดไม่มีข้อเท็จจริงอ้างอิงแต่อย่างใด และกลุ่มบุคคลเหล่านี้ทำงานมานานในภาคใต้ ด้วยพฤติกรรมหลอกลวงข้อมูล
“สิ่งที่ฝ่ายนิติบัญญัติควรทำคือควรศึกษาให้กระจ่างและเสนอเรื่องผ่านสภาผู้แทนราษฎรไปยังฝ่ายบริหาร ซึ่งพฤติกรรมของกมธ.ชุดนี้เป็นพฤติกรรมที่ทำเกินหน้าที่ และเป็นเหตุที่เชื่อว่าไม่มีความเป็นกลาง รวมถึงมีการลงนามข้อตกลงกับหลายบริษัทให้เกิดการขุดคลองไทยซึ่งไม่ใช่บทบาทของกมธ. และเจตนารมณ์ของกมธ.ชุดนี้ไม่ได้ยืนอยู่บนการศึกษาเพื่อเสนอประชาชน” นายประสิทธิชัย กล่าว
นายประสิทธิชัย กล่าวอีกว่า หลักฐานคือมีส.ส.ที่เป็นกมธ. 3 คนได้เสนอร่างพ.ร.บ.ขุดคลองไทยและเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ เป็นการผลักดันให้เกิดขึ้น โดยสิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะเป็นการขัดแย้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตั้งแต่มีการพัฒนามาเนื่องจากกระบวนการขุดคลองไทยครอบคลุม 5 จังหวัดเท่ากับสร้างรัฐอิสระให้เกิดขึ้นใช้พื้นที่ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านไร่ หากสภาผู้แทนราษฎรยังปล่อยให้กมธ.ชุดนี้ได้กระทำการดังกล่าวก็จะเป็นความขัดแย้งครั้งสำคัญของพี่น้องภาคใต้ แต่ก็มียังกมธ.บางส่วนไม่ได้เห็นด้วยกับพฤติกรรมของกมธ.ชุดนี้และได้เสนอคำแปรญัตติเอาไว้
ด้าน นพ.สุกิจ กล่าวว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ยังไม่ได้รับการบรรจุเข้าสู่สภา และส.ส.มีสิทธิเสนอร่าง หากมีผู้เสนอถูกต้องสภาก็ต้องรับ แต่ไม่ใช่ว่าสามารถประกาศเป็นกฎหมายได้ต้องผ่านหลายขั้นตอน โดยหากสมาชิกไม่เห็นด้วยกฏหมายก็จะถูกตีตกแต่หากเห็นด้วยก็สามารถดำเนินการต่อได้ ขอให้เชื่อมั่นว่าจะดำเนินการกับร่างที่เสนอมาอย่างเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ขณะที่ น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ คณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า จากที่มีการรับหนังสือมาขอให้สอบจริยธรรมของกมธ.วิสามัญศึกษาคลองไทยและระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคใต้ จะมีการตรวจสอบเอกสารเช่นรายนามผู้ร้องเรียนมีตัวตนจริงหรือไม่ มีองค์ประกอบเนื้อหาเข้าหลักเกณฑ์ตรวจสอบจริยธรรมหรือไม่ รวมทั้งผู้ที่ถูกกล่าวหามีตัวตนหรือองค์ประกอบตามระเบียบหรือไม่ คณะทำงานและฝ่ายกฏหมาย และทีมงานฝ่ายจริยธรรมก็จะกลั่นกรองเบื้องต้น โดยประสานกับผู้ร้องก่อนจะนำเข้าสู่กระบวนการกลั่นกรองของอนุกรรมการจริยธรรม และเสนอไปยังคณะกรรมการประมวลจริยธรรมเพื่อดำเนินการต่อไป
