‘ทิพานัน’ ซัด ‘ปิยบุตร’ หากไม่เสี้ยม ปัญหา ม.112 ไม่เกิด เห็นตรงข้าม ปมยิ่งจับยิ่งบานปลาย

‘ทิพานัน’ ซัด ‘ปิยบุตร’ หากไม่เสี้ยม ปัญหา ม.112 ไม่เกิด เห็นตรงข้าม ปมยิ่งจับยิ่งบานปลาย

​เมื่อวันที่ 8 มีนาคม น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า ออกมาให้กำลังใจ 18 แกนนำราษฎรที่อัยการมีคำสั่งฟ้อง คดีชุมนุม 19 กันยาทวงอำนาจคืนราษฎร โดยเฉพาะ 3 แกนนำถูกดำเนินคดีตาม ป.อาญา ม.112 โดยระบุว่าวิธีนี้ปิดปากไม่ได้ ขังคุกไม่ช่วยอะไร และยิ่งจับยิ่งบานปลายว่า ปัญหาไม่ได้เกิดจากการบังคับใช้กฎหมาย แต่เกิดจากการชี้นำให้ละเมิดกฎหมายต่างหาก เนื่องจากที่ผ่านมานายปิยบุตรเคลื่อนไหวให้ยกเลิก หรือแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มาตลอด ฉะนั้น ต้องเคยอ่านข้อกฎหมายดังกล่าวมาแล้ว นายปิยบุตรจึงต้องรู้ว่าการแสดงความเห็นอย่างไรจึงไม่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 112 และอย่างไรจึงเข้าข่ายความผิดตามมาตราดังกล่าว

น.ส.ทิพานันกล่าวว่า นายปิยบุตรจึงไม่เคยพูดว่าแกนนำม็อบราษฎรที่ถูกฟ้องร้องดำเนินคดีนั้น ผิดหรือไม่ผิดกฎหมายมาตรา 112 อย่างไร แต่กลับพูดจาเหมือนให้ร้ายเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติและผู้ที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมที่บังคับใช้กฎหมาย เป็นมาตรฐานเดียวกันกับคดีอาญาอื่นๆ โดยมีการพิจารณาไปตามพยานหลักฐานจากข้อเท็จจริง จากการสอบสวน

​น.ส.ทิพานันกล่าวอีกว่า นายปิยบุตรยังคงแผ่นเสียงตกร่อง อาศัยจังหวะที่มีการดำเนินคดีของแกนนำในคดีมาตรา 112 ออกมาเสนอให้เปิดพื้นที่พูดคุยเรื่องสถาบัน ฉะนั้น นายปิยบุตรต้องระมัดระวัง

Advertisement

“การเอาเป้าหมายส่วนตัว มาเป็นเป้าหมายของส่วนรวม เพราะต้องเข้าใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ต้องการให้ประเทศชาติสงบเรียบร้อยและเดินไปข้างหน้า โดยเฉพาะในช่วงของการฟื้นฟูประเทศจากปัญหาการแพร่ระบาดโควิด-19 การที่กลุ่มมวลชนเคลื่อนไหวและแสดงออกในลักษณะก้าวล่วงสถาบัน สร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้จงรักภักดี มีแต่สร้างความขัดแย้งและนำไปสู่การเมืองที่ไม่สร้างสรรค์

​“นายปิยบุตรต้องรู้ตัวเอง ถ้านายปิยบุตรไม่มีพฤติกรรมเข้าข่ายเคลื่อนไหวชี้นำอย่างเลือดเย็น ให้แกนนำละเมิดกฎหมาย เรื่องทั้งหมดก็ไม่เกิดขึ้น แต่แทนที่นายปิยบุตรจะสำนึก ยุติบทบาท กลับออกมาฉวยโอกาสโหนกระแสที่แกนนำถูกจับกุม หรือถูกคุมขัง ออกมาจากห้องแอร์ เคลื่อนไหวเป้าหมายของตนเองทุกครั้ง” น.ส.ทิพานันกล่าว

​ส่วนที่นายปิยบุตรอ้างว่ายิ่งจับยิ่งบานปลายนั้น น.ส.ทิพานันกล่าวว่า ตนเห็นตรงกันข้ามกับนายปิยบุตร เพราะจากการติดตามข่าวการชุมนุมของมวลชนกลุ่มต่างๆ เห็นว่าเยาวชนต่างรู้เท่าทันว่าตกเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง ทั้งนี้ สถานการณ์เช่นนี้ นายปิยบุตรคงใจคอไม่ดีที่หุ่นเชิด หรือคนที่นายปิยบุตรคาดหวังเป็นด่านหน้ากันชนต่างทยอยเข้าคุกไปทีละคนๆ ใช่หรือไม่

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image