ปธ.กกต.กำชับเตรียมการเลือกตั้งส.ส. อย่าให้เหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนวันที่2ก.พ.57

กกต.มอบโล่เกียรติคุณแก่จังหวัดที่มีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงมากสุด ขอบคุณทุกหน่วยงานช่วยสนับสนุนให้ประชามติเรียบร้อย ปธ.กกต.มอบนโยบาย กกต.จว.เตรียมการเลือกตั้ง ส.ส. กำชับอย่าให้เหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนวันที่ 2 ก.พ.57

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 25 สิงหาคม ที่อาคารอิมแพค ฟอรั่ม เมืองทองธานี สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดประชุมสัมมนาวิจัยประเมินผลและการจัดออกเสียงประชามติ โดยมีนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต. นายบุญส่ง น้อยโสภณ นายประวิช รัตนเพียร และนายธีรวัฒน์ ธีรโรจน์วิทย์ กกต.เข้าร่วม พร้อมมอบนโยบายและมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่จังหวัดที่มีผู้ออกมาใช้สิทธิออกเสียงประชามติสูงสุดระดับภูมิภาคและประเทศ โดยจังหวัดที่มีผู้มาออกเสียงมากที่สุดของประเทศ และภาคเหนือ คือ จังหวัดลำพูน แม่ฮ่องสอน และเชียงใหม่ ตามลำดับ ขณะที่ภาคกลาง คือ จังหวัดเพชรบุรี สระบุรี และราชบุรี ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ จังหวัดเลย มุกดาหารและนครราชสีมา ภาคใต้ คือ จังหวัดพัทลุง นราธิวาส และยะลา นอกจากนี้ กกต.ยังมอบรางวัลพิเศษให้แก่จังหวัดที่มีบัตรเสียน้อยที่สุด คือ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดที่รายงานผลคะแนนออกเสียงมาเร็วที่สุด คือ จังหวัดน่าน

ทั้งนี้ นายศุภชัยกล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่สนับสนุนและดำเนินการจัดการออกเสียงประชามติให้เกิดความเรียบร้อย รวมทั้งขอบคุณผู้บริหารและพนักงาน กกต.ที่ตั้งใจทำงานด้วยความทุ่มเท เสียสละ ตนขอแสดงความดีใจกับจังหวัดและสำนักงาน กกต.ที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ ส่วนจังหวัดใดที่ไม่ได้รับรางวัลไม่ได้หมายความว่าไม่พยายามหรือทุ่มเท เพราะผลงานในภาพรวมถือว่าทุกจังหวัดสอบผ่านอย่างมีคุณภาพ

จากนั้น นายศุภชัยให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมร่วมกับ กกต.จังหวัดทั่วประเทศ ว่าการประชุมครั้งนี้จะเป็นการถอดบทเรียนเกี่ยวกับปัญหา อุปสรรคการออกเสียงประชามติ อาทิ การบริหารจัดการ วัสดุ อุปกรณ์ บุคลากร การประชาสัมพันธ์รณรงค์ เพื่อนำข้อบกพร่องต่างๆ มาปรับปรุงการทำงานและเตรียมพร้อมการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในปี 2560 ส่วนความคืบหน้าการยกร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งนั้น ขณะนี้คณะทำงานของ กกต.อยู่ระหว่างการดำเนินการ โดยกกต.จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะมีการเตรียมร่างไว้แล้วหากเสร็จทันก็จะส่งให้ กรธ.พิจารณาปรับแก้ ก่อนส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไป

Advertisement

จากนั้นเวลา 11.00 น. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้จัดประชุมสัมมนาร่วมกับ กกต.จังหวัด ตามโครงการวิจัยประเมินผลการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ โดยนายศุภชัย สมเจริญ ประธาน กกต.ได้กล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า การประชุมในวันนี้ขอให้แต่ละจังหวัด แต่ละภาคเสนอปัญหาและวิธีการแก้ไขจากการทำประชามติที่ผ่านมา เพื่อให้การเลือกตั้งในอนาคตจะได้ไม่เกิดปัญหาซ้ำอีก เนื่องจากตอนนี้ทุกฝ่ายกำลังจับจ้องมายัง กกต. จึงอยากให้นำสิ่งที่เป็นผลบวกจากการทำประชามติ ไม่ว่าจะเป็นการใช้แอพพลิเคชั่นเข้ามาช่วย การรายงานผลคะแนน พิจารณาดูว่าจำเป็นหรือไม่ต้องพัฒนาจุดใดเพื่อนำมาต่อยอดกับการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะมาถึงนี้ เราอยากให้องค์กร กกต.อยู่คู่กับการปกครองระบอบประชาธิปไตยต่อไป ดังนั้น สิ่งสำคัญคืออย่าให้เกิดปัญหาเหมือนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2557

ขณะที่นายบุญส่ง น้อยโสภณ กล่าวว่า อยากให้แต่ละฝ่ายไปพิจารณาว่าจะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้ปราศจากการทุจริต จากการทำคดีเลือกตั้ง จุดอ่อนของ กกต. คือการแสวงหาพยานหลักฐาน การรบกับนักการเมืองที่มีอิทธิพลในพื้นที่ ทำให้พยานของเรามีจำกัด ต้องปฏิรูปกันหลายเรื่อง จะดำเนินการอย่างไรต่อกับชุดป้องปรามหาข่าว ที่ผ่านมาลงงบประมาณไปมากแต่ไม่ค่อยได้ความปรากฏ แต่จำเป็นต้องมี ต้องให้ กกต.จังหวัดช่วยกันคิดเพราะเป็นคนในพื้นที่ซึ่งรู้ดีกว่าพวกตน ต้องมีการพัฒนาการข่าวที่เป็นต้นกระบวนของการได้พยานหลักฐาน อีกสิ่งหนึ่งคือ จะแก้ไขกฎหมายสืบสวนสอบสวนอย่างไรเพื่อให้ได้พยานหลักฐานที่ดี หากให้มีรางวัลนับจับแก่คนชี้เบาะแสเพื่อสร้างแรงจูงใจ กำหนดรางวัลว่าคนชี้เบาะแสการทุจริตเลือกตั้งระดับชาติและท้องถิ่นได้รางวัลเท่าไหร่และจะจ่ายอย่างไร

“ประเด็นสำคัญคือเพิ่มมาตรการการคุ้มครองพยาน เพราะที่ผ่านมาศาลมักจะยกคำร้องเพราะพยานถูกข่มขู่จนกลับคำให้การ บุคคลที่ขายเสียงหรือเป็นผู้ประสานงานอาจกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ บุคคลเหล่านี้เราต้องรองรับกันตัวมาเป็นพยานให้ได้ เชื่อว่าหากจะให้มีการแก้ไขกฎหมายต้องทำในช่วงนี้ที่ สนช.ทำหน้าที่สภาจะเหมาะสมและดูแล้วน่าจะมีความสำเร็จมากกว่า เพราะหากทำตอนช่วงที่มี ส.ส. อาจจะทำได้ยาก” นายบุญส่งกล่าว

Advertisement

ด้านนายประวิช รัตนเพียร กล่าวต่อว่า โจทย์ต่อไปของ กกต. ไม่ง่ายเพราะเป็นโจทย์เลือกตั้งหลังมีรัฐธรรมนูญใหม่ สังคมคาดหวังสูง หลังจบงานประชามติ กกต. มีมติ ใน 3 เรื่อง ให้มีการปรับปรุงเพื่อใช้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า 1.การลงทะเบียนขอใช้สิทธิผ่านอินเตอร์เน็ต แอพพลิเคชั่นต่างๆ มาช่วยในการจัดการเลือกตั้ง 2.การสร้างเครือข่ายสื่อบุคคล ทั้งรด.จิตอาสา ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตยและการเลือกตั้งตำบล (ศส.ปชต.) ดีเจประชาธิปไตย 3.กปน.มืออาชีพ สิ่งเหล่านี้ต้องมีการพัฒนาเพื่อให้การจัดเลือกตั้งปลายปีหน้ามีความสมบูรณ์

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image