“ก้าวไกล” จี้ รบ.รับผิดชอบ เร่งทำประชามติ เล็งตั้งคำถาม ถามปชช. ยุบเหลือสภาเดียว-ปฏิรูปศาลรธน.-องค์กรอิสระ
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 18 มีนาคม ที่รัฐสภา นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภาลงมติไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมในวาระ 3 ว่า พรรคก้าวไกลเห็นว่าการคว่ำวาระที่ 3 ของร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 17 ที่ผ่านมานั้นเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่าอุปสรรคที่สำคัญมากในการขัดขวางการเปลี่ยนผ่านจากระบอบคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ไปสู่ระบอบประชาธิปไตย คือส.ว.และส.ส.รัฐบาลจำนวนหนึ่ง ซึ่งมีเจตนาไม่ต้องการให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาจากการเลือกตั้งของประชาชนเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ดังนั้นประเด็นที่อ้างว่าจะต้องไปทำประชามติก่อนหรือไม่เป็นเพียงข้ออ้างเท่านั้น พฤติการณ์ที่ผ่านมาชัดเจนมาโดยตลอดว่าผู้มีอำนาจร่วมมือกับส.ว.และส.ส.จำนวนหนึ่ง พยายามเตะถ่วงให้นานที่สุดเพื่อให้ประเทศไทยอยู่กับรัฐธรรมนูญ 2560 ให้นานที่สุด ดังนั้นการที่พรรคร่วมรัฐบาลจำนวนหนึ่งวอล์กเอาต์โดยพยายามเสนอว่าควรจะมีการเลื่อนวาระ 3 ไปก่อนเพื่อไปถามศาลรัฐธรรมนูญอีกครั้งเพื่อความชัดเจนเป็นเพียงข้ออ้าง ยิ่งเป็นการทำให้หลงทิศหลงทาง ยืดเยื้อไปเรื่อยๆ และสุดท้ายก็ไปโหวตคว่ำ หลอกประชาชนในท้ายที่สุด ซึ่งจะยิ่งสร้างความเสียหาย เสียโอกาสของประเทศไทยในการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไปอีก สุดท้ายอาจทำให้ร่างรัฐธรรมนูญถูกคว่ำในสมัยประชุมหน้าและเมื่อเป็นเช่นนั้นการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ การเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญคล้ายๆ กัน ก็จะทำไม่ได้ในสมัยประชุมหน้าอย่างเร็วที่สุดก็จะเริ่มได้ ตอนเดือนพฤศจิกายน
นายชัยธวัช กล่าวต่อว่า ประเด็นสำคัญไม่ใช่ควรหันไปถามศาลรัฐธรรมนูญหรืออ้างว่าไม่ต้องการร่วมสังฆกรรมล้มร่างรัฐธรรมนูญด้วยมือตนเอง แต่ควรจะไปถามแกนนำรัฐบาล โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่าจะรับผิดชอบอย่างไรกับการหักหลังประชาชนเช่นนี้ พรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคหากมีความจริงใจที่ต้องการผลักดันให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จริงๆ ต้องถามความรับผิดชอบจากแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล
อย่างไรก็ตามในเมื่อมีการคว่ำการแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้ว โดยอ้างว่าต้องทำประชามติก่อน ดังนั้นถือว่าเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่หลังจากที่พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประชามติซึ่งจะพิจารณากันในวันนี้ บังคับใช้ รัฐบาลจะต้องจัดทำประชามติโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญเป็นคนตัดสินใจว่าเห็นชอบหรือไม่ ที่จะยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560 และให้มีการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับผ่านการตั้งส.ส.ร. จากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง นอกจากนั้นอาจมีความจำเป็นต้องถามประเด็นสำคัญพ่วงไปด้วย อาทิ ประชาชนเห็นชอบหรือไม่ที่จะให้มีส.ว.อยู่ต่อไปหรือเห็นชอบหรือไม่ที่จะต้องมีการปฏิรูปศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระอื่นๆ เพราะเป็นประเด็นใหญ่ คิดว่าเสียงของประชาชนมีความชอบธรรมที่สุดที่จะลงมติ
เมื่อถามว่าข้อเสนอที่ถ้าทำประชามติให้พ่วงคำถาม 2 ลักษณะที่กล่าวไปเมื่อสักครู่ กล่าวได้หรือไม่ว่าพรรคก้าวไกลต้องการให้เป็นสภาเดี่ยวไปเลย นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าจนถึงปัจจุบันนี้ประชาชนจำนวนมากรู้สึกว่าประเทศไทยไม่จำเป็นต้องมีวุฒิสภาอีกแล้ว หนำซ้ำในทางตรงกันข้ามการมีวุฒิสภากลับเป็นตัวถ่วงสำหรับการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศไทย อย่างไรก็ตามเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ จึงเป็นข้อเสนอว่านอกจากจะถามว่าจะมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ คำถามประเภทนี้อาจจำเป็นต้องถามพ่วงไปด้วย
เมื่อถามว่าจะมีการยื่นแก้ไขเป็นรายมาตราหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คิดว่าจะมีการยื่นประเด็นหลักอยู่ที่ว่าควรจะต้องมีการทำประชามติเพื่อถามประชาชนโดยเร็วที่สุด ต้องยอมรับว่าการแก้ไขเป็นรายมาตราไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด จำเป็นต้องมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ขึ้นมาเลยและอาจจะมีภาคประชาชนจำนวนหนึ่งที่จะล่ารายชื่อเพื่อแก้ไขรายมาตราไปด้วย เราก็สนับสนุน
