รัฐสภาวุ่น! ถก กม.ประชามติ กมธ.ข้างมากแพ้โหวตแต่ไม่ยอมแพ้ ส.ว.ลุกขึ้นขอโหวตใหม่

รัฐสภาพิจารณา กม.ประชามติ ‘สิริพงศ์’ หนุนร่าง กมธ.เสียงข้างน้อยให้รัฐสภามีอำนาจขอทำประชามติ ด้าน ‘วีระกร’ ไม่ไว้ใจ กกต. ชี้ที่ผ่านมาบัตรเขย่งเพียบ ทำ กมธ.เสียงข้างมากแพ้โหวต มาตรา 9 ‘ส.ว.’ โวยขอนับคะแนนใหม่แต่ไม่เป็นผล ‘พรเพชร’ สั่งพักประชุมเพื่อปรับแก้เนื้อหา

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 18 มีนาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมรัฐสภา ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม พิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. … ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยเป็นการพิจารณาวาระสอง เรียงตามลำดับมาตรา มีทั้งหมด 67 มาตรา โดยในมาตรา 9 เกี่ยวกับให้คณะกรรมการมีหน้าที่และอำนาจจัดและควบคุมดูแลการออกเสียงให้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม เสรี เสมอภาค และชอบด้วยกฎหมาย โดย นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) อภิปรายเห็นด้วยกับร่างของ นายชูศักดิ์ ศิรินิล กมธ.เสียงข้างน้อย ว่าแม้ที่ผ่านมาฝ่ายนิติบัญญัติจะทำความเห็นไปยัง ครม. แต่อำนาจการตัดสินใจว่าจะทำหรือไม่ทำก็อยู่ที่ ครม. แต่หากใช้ร่างของนายชูศักดิ์จะทำให้ ครม.ต้องดำเนินการตามความเห็นที่รัฐสภาส่งไป จะทำให้ความเห็นของรัฐสภาที่ต้องการให้รัฐบาลทำประชามตินั้นรัฐบาลปฏิเสธไม่ได้

ด้าน นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายเห็นแย้งกับ กมธ. ว่าตนไม่เห็นด้วยที่จะมอบหมายให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทำประชามติ เพราะแค่ให้ กกต.ดำเนินการจัดการเลือกตั้ง กกต.ก็ทำให้เกิดการซื้อเสียงกันอย่างกว้างขวาง การเลือกตั้งในแต่ละครั้งมีกฎหยุมหยิม ป้ายติดอะไร ตรงไหน ขนาดเท่าไหร่ กำหนดหมด แต่ใครซื้อเสียงตรงไหนไม่เคยรู้เลยเพราะไม่เคยออกไปดู ตั้งแต่มีการเลือกตั้งมา กกต.ที่นครสวรรค์รับแต่เงินเดือน ไม่มีการพัฒนาอะไรเลย ถ้าเรายังไปมอบหมายภารกิจสำคัญให้เขาจัดทำอีก ตนมองไม่ออกเลยว่า กกต.จะจัดให้มีการทำประชามติที่บริสุทธิ์ยุติธรรมได้อย่างไร แถมยังมีการเพิ่มถ้อยคำว่าต้องเสรีและเสมอภาคอีก กกต.จะดำเนินการอย่างไร เพราะแค่ที่ทำกันอยู่ กกต.ยังไม่เคยออกมาดูเลย มีทั้งคะแนนเขย่งและบัตรเขย่งเต็มไปหมด

“ผมมองว่าถ้าเราไปมอบภาระหน้าที่ให้ กกต.มากจนเกินไปผมเกรงว่าจะเละกันไปหมด ขนาดภาคใต้ที่ผ่านมาไม่เคยมีการซื้อเสียง ท่านยังทำจนเละไปหมดเลย ผมขอถามว่า กกต.จะทำให้การทำประชามติเสมอภาคได้อย่างไร จะเอาวิธีไหนมาทำให้เสมอภาค เพราะแค่การเลือกตั้งที่สุจริตเที่ยงธรรมท่านยังทำไม่ได้เลย” นายวีระกรกล่าว

หลังสมาชิกอภิปรายแสดงความคิดเห็นแล้ว ทาง กมธ.ยืนยันตามร่างที่เสนอเข้าสู่ที่ประชุม โดยที่ประชุมลงมติเห็นด้วยให้มีการแก้ไข 534 ต่อ 3 งดออกเสียง 1 ไม่ลงคะแนน 2 และเห็นชอบให้มีการแก้ไขตามกรรมาธิการเสียงข้างน้อย ของนายชูศักดิ์ เสนอ โดยเนื้อหานั้นมีสาระคือ กำหนด 5 เงื่อนไขต่อการทำประชามติ ได้แก่ 1.การออกเสียงที่เกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามที่มีบทบัญญัติกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ 2.การออกเสียงกรณีเมื่อ ครม.เห็นว่ามีเหตุอันสมควร 3.การออกเสียงตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องมีการออกเสียง 4.การออกเสียงในกรณีที่รัฐสภาได้พิจารณาและมีมติเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีเหตุสมควรที่จะให้มีการออกเสียง และได้ชี้แจงเรื่องให้ ครม.ดำเนินการ และ 5.การออกเสียงกรณีประชาชนเข้าชื่อเสนอต่อ ครม. เพื่อให้ความเห็นชอบการออกเสียง ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการกำหนด นอกจากนั้นได้กำหนดรายละเอียดด้วยว่า ห้ามออกเสียงประชามติเรื่องที่มีผลกระทบต่อสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่รัฐธรรมนูญได้รับรองไว้

Advertisement

ทำให้ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธาน กมธ. ขอพักการประชุม 10 นาทีเพื่อไปดูว่ามาตรา 10 จะทำอย่างไรให้สอดคล้องกับมาตรา 9 แต่ทำให้สมาชิกถกเถียงกันไปมา เมื่อ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว. ขอใช้สิทธินับคะแนนใหม่ ด้วยการขานคะแนน ตามข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อที่ 58 เพราะคะแนนมีผลต่างน้อยกว่า 30 คะแนน ทำให้ ส.ส.พรรคฝ่ายค้านประท้วงและโต้ตอบว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเข้าสู่กระบวนการพิจารณามาตรา 10 แล้ว ทำให้มี ส.ว.โห่ประท้วงไม่พอใจ แต่ก่อนที่ความขัดแย้งจะบานปลาย นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม วินิจฉัยว่าที่ประชุมเข้าสู่มาตรา 10 แล้วไม่สามารถใช้สิทธินับคะแนนใหม่ได้

จากนั้นนายพรเพชรได้พักการประชุม 10 นาที เพื่อให้ กมธ.หารือปรับแก้เนื้อหามาตรา 10 และมาตรา 11 ให้สอดคล้องกับมาตรา 9 ที่ได้แก้ไข

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image