“วิรัช” ชี้กม.ประชามติผ่านหรือตกขึ้นอยู่ที่เสียงส่วนใหญ่ แจงจะมีการประชุม 7-8 เม.ย.นี้หรือไม่ ขึ้นอยู่ที่ “ชวน” ยัน พปชร.เดินหน้าแก้รธน.รายมาตรา 7 เม.ย. นี้
เมื่อเวลา 11.25 น. วันที่ 5 เมษายน ที่รัฐสภา นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวถึงการประชุมวิปรัฐบาล ว่า เป็นการเตรียมการสำหรับการประชุมสมัยวิสามัญในวันที่ 7-8 เมษายน ซึ่งสิ่งที่หลายคนมีความกังวลมากคือร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ) ประชามติ ทราบมาว่าขณะนี้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้วและส่งมาให้วิปรัฐบาลดูในรายละเอียดว่ามาตรา 9,10,14 ซึ่งเขียนล้อกันมา เพราะยึดหลักกันมาเมื่อผ่านสภาวาระ 2 แล้วจะทบทวนหรือไม่ ซึ่งที่คุยกันแล้วสรุปว่าจะไม่ทบทวน แต่จะทบทวนถ้อยคำของมาตราที่ถัดออกมา เพื่อเป็นการล้อมาตรา 9
เมื่อถามว่ามีความกังวลเกี่ยวกับพ.ร.บ.ประชามติ ที่ต้องผ่านความเห็นชอบเสียงกึ่งหนึ่งของรับสภา อาจจะไปตกที่ส.ว. นายวิรัช กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับกมธ.และเสียงส่วนใหญ่ในการประชุมวันที่ 7-8 เมษายน การจะประชุมหรืองดประชุมไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไร อยู่ที่นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เนื่องจากได้มีการออกระเบียบวาระมาแล้ว
ส่วนคำถามว่า ส.ว.ที่รู้ตัวว่าเสี่ยงติดโควิด จะมาประชุมหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ต้องรอฟัง แต่หากประชุมกันจริงๆ ทุกคนก็รู้หน้าที่ว่าใครที่มีความเสี่ยงก็ต้องกักตัว 14 วันตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุขก็เป็นเรื่องที่ดี ตนไม่ทราบว่า ส.ว.กี่คน กระทรวงสาธารณสุขก็ไม่รู้ว่ารู้จริงหรือไม่ เพราะตอนี้ยังสับสนกันอยู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับนายชวน
นายวิรัช กล่วถึงการยื่นแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราของพรรคพลังประชารัฐในวันที่ 7 เมษายน ว่า จะยังคงยื่นอยู่ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐได้ทำพร้อมรอไว้ตั้งแต่วันที่มีการโหวตไม่ผ่านในวาระ 3 ซึ่งจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 15 มีนาคม และได้ระบุรายละเอียดไว้ชัดเจนว่าถึงแม้จะแก้ไขได้แต่ต้องทำประชามติถึง 2 ครั้ง การทำประชามติครั้งหนึ่งใช้งบประมาณถึง 4 พันล้านบาทโดยที่บางครั้งเรายังไม่รู้ทิศทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าจะเป็นไปในทิศทางใด ฉะนั้นสิ่งที่เราทำได้รวดเร็วที่สุดคือการแก้รายมาตรา เพราะไม่ต้องทำประชามติ
เมื่อถามว่า การยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญหลายมาตรา ในญัตติเดียวของพรรคพลังประชารัฐ อาจเสี่ยงที่จะถูกตีตกร่างทั้งฉบับ นายวิรัช กล่าวว่า ไม่เป็นไร ก็ไปพิจารณาในวาระ 2 อะไรที่ไม่เห็นด้วยค่อยไปตัดออกช่วงนั้นก็ได้ ไม่ได้หมายความว่าเสนอเข้ามาแล้วเวลาตัดออกต้องออกทั้งหมด เช่นมีการเสนอเข้าไป 5 มาตรา อาจจะผ่าน 3 มาตราซึ่งเป็นเรื่องที่กมธ.จะพิจารณา
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคฝ่ายค้านบางพรรคจะเสนอแก้มาตรา 256 อีกครั้งซึ่งจะต้องมีการทำประชามติ นายวิรัช กล่าวว่า อยู่ที่รัฐสภาจะพิจารณารับร่างผ่านวาระที่ 1 หรือไม่ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะหนุนญัตตินี้หรือไม่ ต้องรอดูวันนั้น
