‘ไอติม’ แจง 7 เหตุผลข้อดีสภาเดี่ยว ชี้ แก้รธน. ต้องโละส.ว. เพื่อรื้อระบอบประยุทธ์

‘ไอติม’ เผย 7 เหตุผลข้อดีสภาเดี่ยว ชี้ แก้รธน. ต้องโละส.ว. เพื่อรื้อระบอบประยุทธ์ ด้าน ‘สฤณี’ อัด ยุทธศาสตร์ชาติ แหล่งรวมกลุ่มผลประโยชน์ ‘ทหาร-นายทุน’ ถ่วงรั้งประเทศล้าหลัง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 6 เมษายน ที่ห้อง LT1 ชั้น 1 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กลุ่ม Re-Solution จัดกิจกรรมเปิดตัวแคมเปญใหม่ 6 เมษา! เริ่มนับหนึ่ง #ขอคนละชื่อรื้อระบอบประยุทธ์ โดยเป็นการผนึกกำลังสร้างแรงกระเพื่อมให้การเมืองไทย เดินหน้ารวบรวมรายชื่อประชาชนทั่วประเทศ เพื่อเข้าชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา โดยมีน.ส.สฤณี อาชวานันทกุล นักวิชาการอิสระพูดถึงการ “เลิก ยุทธศาสตร์ชาติ แผนปฏิรูป : ปลดโซ่ตรวนอนาคตประเทศ”  ว่า รัฐธรรมนูญ 2560 กำลังเป็นโซ่ตรวนล่ามประเทศเอาไว้ วันนี้เรามียุทธศาสตร์ชาติแต่กลับเป็นชาติที่ยังไม่มียุทธศาสตร์อะไร แต่กลับเป็นเครื่องมือผูกมัดไม่ให้สังคมก้าวไปข้างหน้า ทั้งนี้หากในการเลือกตั้งครั้งใหม่ก็เสี่ยงที่จะเป็นเครื่องมือในการแกล้งรัฐบาลใหม่หากเป็นขั้วตรงข้าม ทั้งนี้ ยุทธศาสตร์ชาติมีการวางเป้าหมายไว้ทุก 5 ปี ซึ่งปี 2565 ก็จะเป็นหมุดหมายแรกที่ประกาศใช้ แต่รายงานสรุปการดำเนินงานประจำปี 2563 ทำโดยสภาพัฒน์ปรากฏว่าจะแผนแม่บทและแผนแม่บทย่อยทั้งหมด 177 เป้าหมาย บรรลุผลเพียง 19 %เท่านั้น ดังนั้นเหลืออีก 1 ปี 8 เดือนที่จะต้องทำให้บรรลุเป้าหมาย ที่เหลืออยู่ทั้งหมด

น.ส.สฤณี กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติ ไม่ได้สะท้อนความต้องการของประชาชนเพราะมีที่มาจากคณะกรรมการ 34 คนที่แต่งตั้งโดยคสช. ส่วนใหญ่ก็เป็นทหารและนักธุรกิจ ที่เป็นเครือข่ายผลประโยชน์ของพล.อ.ประยุทธ์ เสี่ยงเปิดช่องให้มีการกลั่นแกล้งหน่วยงานภาครัฐ สิ่งที่เขียนขึ้นมาไม่ได้ทันสมัยทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก ทางออกคือเลิกใช้สิ่งเหล่านี้และกลับไปสู่ครรลองของประชาธิปไตยปกติ ปล่อยให้พรรคการเมืองต่างๆ มีอิสระเสรีแข่งขันการสร้างนโยบายในการพัฒนาประเทศเพื่อประโยชน์ของประชาชน

Advertisement

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ’ไอติม’ พูดถึง “ล้ม วุฒิสภา : เดินหน้าสภาเดี่ยว” กล่าวว่า สถาบันการเมือง ที่เป็นศูนย์รวมความเลวร้าย และความวิปริต คือ ส.ว. การแก้ไขรายมาตราที่ไม่แตะอำนาจ ส.ว. จึงไม่เพียงพอที่จะรื้อระบอบประยุทธ์ วันนี้ ตนจะพูดถึง 7 เหตุผลว่าประเทศจะดีขึ้นอย่างไร ถ้ามีสภาเดี่ยว คือ 1.ประชาชนทุกคนมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากันในการเลือกนายกรัฐมนตรี 2.รัฐสภาต้องสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชน 3.ระบอบประยุทธ์ ต้องสืบทอดอำนาจไม่ได้ 4.การออกกฎหมาย คล่องตัวทันใจ ต่อการเปลี่ยนแปลง 5.การประหยัดงบประมาณ 1,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อใช้ประโยชน์และจัดสวัสดิการให้ประชาชน เช่น การเพิ่มค่าอาหารกลางวันให้นักเรียน 6.กลไกการตรวจสอบการถ่วงดุลอำนาจมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม เพราะทุกวันนี้ส.ว. ก็ไม่ได้ทำหน้าที่ถ่วงดุลและตรวจสอบฝ่ายบริหารอยู่แล้ว เราจึงเสนอให้ติดอาวุธรัฐสภา โดยให้นายกรัฐมนตรี ต้องมาจากส.ส. และการให้มีผู้ตรวจการกองทัพ ศาล และองค์กรอิสระ และ 7.โครงสร้างทางการเมืองที่ปฏิบัติได้จริง และสอดรับกับทิศทางโลกสมัยใหม่ เพื่อให้ประเทศ

นายพริษฐ์ กล่าวว่า ความจริงแล้วไม่จำเป็นต้องบอกว่าสภาเดี่ยวดีกว่าอย่างไร ภาระพิสูจน์นี้ต้องอยู่ที่ส.ว.ว่าจะมีส.ว. ไว้เพื่ออะไร ทั้งนี้เราจึงต้องลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ตนมองว่าการพัฒนาประชาธิปไตยเปรียบเหมือนเกมชักเย่อ เพราะมีประชาชนส่วนหนึ่งต้องการให้ประเทศเดินไปข้างหน้า แต่อีกด้านก็มีระบบ และรัฐธรรมนูญที่ล้าหลัง ทั้งนี้ ตนอยากจะฝากข้อความแห่งความหวังของคนที่ต้องการให้สังคมไปข้างหน้า ว่าเรายังมีหวังที่จะเปลี่ยนแปลง ส่วนกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกติกา ตนอยากจะบอกว่า สังคมมีแต่จะก้าวหน้า ประชาธิปไตยมีแต่จะเบ่งบาน หากวันหนึ่งเชือกจะขาด การปะทะทางความคิด จะไปปะทะบนท้องถนน ตนจึงอยากให้คนกลุ่มนี้เดินไปพร้อมกับเรา

สุดท้ายคือ กลุ่มคนที่เป็นกลาง ตนอยากจะบอกว่า สิ่งที่เราต้องการ ก็คือระบอบที่เป็นกลาง ที่กฎหมายทุกฉบับถูกบังคับใช้ด้วยมาตราฐานเดียวกัน เราจึงอยากให้คนกลุ่มนี้มาร่วมลงชื่อกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประเทศไทยก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image