เจ็บปวด ไม่ไหว ‘แม่รุ้ง’ ร่ำไห้หน้าศาล อัดอั้น ‘ลูกไม่ได้ทำผิด’ เผยปล่อยตัว คือความหวังเดียว

เจ็บปวด ไม่ไหว ‘แม่รุ้ง’ ร่ำไห้หน้าศาลฎีกา อัดอั้น ‘ลูกไม่ได้ทำผิด’ เผย ‘ปล่อยตัว’ คือความหวังเดียว

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 11 เมษายน ที่ หน้าศาลฎีกา ถนนราชดำเนินใน กรุงเทพฯ กลุ่มพลเมืองโต้กลับ นัดหมายทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “ยืนหยุดขัง” 112 นาที เป็นวันที่ 20 เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังจากการทำกิจกรรมเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งระบุว่าจะจัดขึ้นทุกวันจนกว่าเพื่อนจะได้รับอิสรภาพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเริ่มต้นของวันนี้ มีผู้ร่วมทำกิจกรรม กว่า 80 คน นำโดย นายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ บิดาของ นายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือ น้องเฌอ ผู้ถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการสลายการชุมนุมเสื้อแดง เมื่อปี 2553 และ “คณะราษมัม” ที่มาร่วมยืนเพื่อยืนยันสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราวเป็นครั้งแรก นำโดย นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ มารดาของ นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน, นางสุริยา สิทธิจิรวัฒนกุล มารดาของ น.ส.ปนัสยา หรือ รุ้ง, นางมาลัย นำภา มารดาของ นายอานนท์, นางอรวรรณ แก้ววิบูลย์พันธุ์ มารดาของ นายไชยอมร หรือ แอมมี่ เดอะบอททอม บลูส์ และ นางณัฏฐธิดา มีวังปลา หรือ แหวน พยาบาลอาสา เพื่อนของนายสมยศ พฤกษาเกษมสุข มาพร้อมกับครอบครัว โดยคณะราษมัม ต่างกอดภาพของบุตรของตนเองไว้แนบอก

ทั้งนี้ ยังมีน้องสาวของ นายพริษฐ์ หรือ เพนกวิน, พี่สาวของรุ้ง ปนัสยา และ แฟนสาวของไผ่ ดาวดิน มาร่วมด้วย โดยทุกคนชูภาพพี่ชาย น้องสาว และแฟนหนุ่มของตนเอง

Advertisement

นางสุริยา สิทธิจิรวัฒนกุล มารดาของ น.ส.ปนัสยา หรือ รุ้ง เปิดเผยถึงการเข้าร่วมกิจกรรมกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับว่า วันนี้ตั้งใจมายืนร่วมกิจกรรมกับพี่ป้า น้าอา เพื่อเรียกร้องให้ปล่อยลูกเรา ปล่อยเพื่อนที่อยู่ในเรือนจำ ให้ออกมาอย่างเร็วที่สุด

เมื่อถามว่า การที่เห็นลูกสาวออกมาขับเคลื่อนร่วมกับประชาชน ต่อสู้กับข้อกฎหมายของรัฐบาล รู้สึกอย่างไรบ้าง ?

Advertisement

นางสุริยากล่าวว่า ช่วงแรกก็กลัว กังวล เป็นห่วงลูก ในฐานะแม่ ลูกเราเป็นผู้หญิงด้วย ออกมาขับเคลื่อนออกแรงทางนี้ เราได้แต่บอกว่า ลูกทำอะไรก็ระมัดระวังตัวเอง แม่เป็นห่วง ได้บอกเขา เขาก็ต้องไปคิดตรึกตรอง ไปปรึกษาหารือกับเพื่อนเขา แต่เราก็ได้แค่ให้คำแนะนำ เพราะเราไม่ค่อยรู้เรื่องระบบแบบนี้ เป็นคนธรรมดา ไม่ได้ศึกษาระบบเหล่านี้มาก่อน

“ปกติไม่ได้เป็นคนสนใจการเมือง แม่เป็นคนธรรมดา ทำงาน เช้า-เย็นทุกวันไป ทำงานเลี้ยงลูก เมื่อลูกมาขับเคลื่อนการเมือง ก็ได้แต่คอยให้คำแนะนำว่า ‘ระมัดระวังตัวนะคะลูก ระวังอันตรายนะเข้ามาในการเมือง’ เพราะเราก็เห็นอยู่ แต่ไม่ได้ขับเคลื่อนเรื่องการเมือง ญาติพี่น้องก็ไม่เคยทำ

เขาบอกว่า ‘แม่ หนูจะไปทำกับเพื่อน เรียกร้องเพื่อให้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม ให้รุ่นลูก รุ่นหลาน เพราะรุ่นหนู ถ้าไม่ทำ แล้วใครจะทำ ก็เพื่อจะให้ชีวิตรุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป ในวันข้างหน้าได้มีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้’ เพราะเขาอยากให้หลานๆ เด็กๆ ตัวเล็กๆ มีชีวิตที่ดีกว่านี้ ด้วยการพัฒนาบ้านเมือง แม่บอกว่า ‘มันจะไหวไหมลูก ที่เป็นมาอย่างนี้ คนที่มาขับเคลื่อนก็ไปไม่ถึงจุดหมายเท่าไหร่นะลูก ทำกันได้ไหม’ รุ้งบอกว่า ‘ก็ต้องทำค่ะแม่ ถ้าไม่ทำก็อยู่กันอย่างนี้’ ” นางสุริยากล่าว

เมื่อถามว่า เวลาเห็นการต่อสู้ของลูก แล้วมีการจับกุม รู้สึกอย่างไรบ้าง ?

นางสุริยาเปิดเผยว่า มันเจ็บปวด ไม่ไหว ร้องไห้ อยากให้เห็นสภาพ

“แม้แต่ ณ ปัจจุบัน พอเห็นรูปภาพออกมา เราก็ร้องไห้ไม่ไหว มันอัดอั้นตันใจ ในเมื่อลูกเราไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมถึงจับลูกเราไปอย่างนี้ (น้ำตาไหล) ควรจะปล่อยเขา มีอะไรให้ได้คุยกัน ไม่ใช่มาจับเด็กไปในเมื่อเขายังไม่ผิด ทำตามกระบวนการว่าผิดหรือไม่ผิด แล้วค่อยว่ากัน”

เมื่อสอบถามว่าได้พูดคุยกับ น.ส.ปนัสยาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่

นางสุริยาเผยว่า เมื่อวันที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา วันที่ขึ้นศาล

“ไม่ได้พูดอะไรมาก ถามว่า ‘รุ้งยังไหวไหมคะ ลูกเหนื่อยไหม ลูกเพลียไหม’ เขาก็บอกว่า ‘นิดหน่อยค่ะแม่ หนูทนได้ หนูทนได้’ (เสียงสั่นเครือ)

“คิดว่ากิจกรรมในวันนี้ ก็น่าจะสื่อความเห็นใจให้ศาลได้ในระดับหนึ่ง ไม่มากก็น้อย ความหวังเดียวตอนนี้คือ ขอให้ลูกได้รับการปล่อยตัวออกมาอย่างเร็วที่สุด เพราะเขาอดอาหารอยู่ด้วย ไม่รู้ตอนนี้สภาพร่างกายจะเป็นอย่างไร ตอนนี้เค้าดื่มแค่น้ำ และน้ำหวานทุกวัน เป็นเวลา 13 วันแล้ว มันก็อ่อนเพลีย อย่างเราเองอยู่ข้างนอกไม่ทานข้าวสักหนึ่งวัน เราจะเป็นอย่างไร เราก็อ่อนเพลีย พ่อแม่ลองดูแล้ว เราไม่ทานข้าว ทานแต่นม กับน้ำหวาน มันเพลียและเหนื่อยล้า” นางสุริยากล่าว และว่า

“ลูกเป็นคนเก่ง ลูกกล้า กล้าที่จะตัดสินใจช่วยรุ่นน้องๆ พี่ ป้า น้า อา มาขับเคลื่อน ไม่ว่าจะเป็นผล หรือไม่เป็นผลอย่างไร เขาก็ลองทำดู แม่ภาคภูมิใจในเขา”

ด้าน พี่สาวของ น.ส.ปนัสยากล่าวถึงอุปนิสัยของน้องว่า จากที่เราเลี้ยงดูน้องมา น้องอยากได้อะไรเราก็ให้น้องได้ แต่น้องก็ไม่เคยงอแง อยากได้เกินตัว ที่น้องเราเข้าไปอยู่ในคุกตอนนี้ เชื่อว่าน้องปรับตัวได้ ปรับตัวเก่งอยู่แล้ว ไปที่ไหนก็อยู่ได้

เมื่อถามว่า น.ส.ปนัสยา เวลาอยู่ที่บ้าน กับขึ้นเวทีปราศรัย แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร มีอารมณ์อ่อนไหวหรือไม่

พี่สาวของ น.ส.ปนัสยา เปิดเผยว่า ตอนที่น้องอยู่ต่อหน้ามวลชน กับที่บ้าน เรียกว่าเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้

“ในความที่รุ้งเป็นน้องสาวคนเล็ก ก็จะมีอาการขี้อ้อน  อยู่กับพ่อ กับแม่ กับพี่ ก็จะอ้อน แต่การที่น้องรุ้งออกมาสู่มวลชน เราเห็นได้เลยว่า มันแตกต่างจากที่บ้านมากๆ แววตาน้องเข้มแข็งมาก แข็งแกร่งมาก ในวัย 22 ปีของน้องตอนนี้ เทียบกับเรา 22 ปีในตอนนั้นไม่ได้เลย น้องไปไกลแล้ว น้องเข้มแข็งเกินวัยมาก”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้  น.ส.อินทิรา เจริญปุระ หรือ ทราย นักร้อง นักแสดง และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ฉายาแม่ยกแห่งชาติ ก็นำรูปภาพของแกนนำ และอุปกรณ์อื่นๆ มาสนับสนุนกิจกรรมในครั้งนี้ตามคำขอของ มารดา นายพริษฐ์ มีนายบารมี ชัยรัตน์ ที่ปรึกษาสมัชชาคนจน และ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ นักสังเกตการณ์ทางการเมือง นำเจลแอลกอฮอล์มาบริการผู้ร่วมกิจกรรม

อีกทั้ง ยังมีหมู่บ้านทะลุฟ้า ภาคี save บางกลอย กลุ่มศิลปะปลดแอก มาร่วมกางผ้าใบกันฝนขนาดใหญ่ก่อนเริ่มกิจกรรม และนำรูปภาพของแกนนำมาให้นักกิจกรรมยืนถือเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัว กลุ่มการ์ดอาชีวะ มาร่วมดูแลความปลอดภัยตลอดการทำกิจกรรม ท่ามกลางฝนที่ปรอยลงมาเล็กน้อย โดยผู้ทำกิจกรรมต่างกางร่ม และสวมชุดกันฝน ขณะที่ผู้ร่วมกิจกรรมบางส่วนยืนตากฝน บางส่วนสวมเพียงหมวก แต่ยังคงมุ่งมั่นยืนทำกิจกรรมต่อไป

โดยสิ้นสุดกิจกรรมในเวลา 19.22 น. ผู้ร่วมกิจกรรม ทั้ง 175 คน ชู 3 นิ้ว เปล่งเสียง “ปล่อยเพื่อนเรา” 3 ครั้ง ก่อนแยกย้ายกลับบ้าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image