‘วรวัจน์’ แนะ 3 แนวทางให้ รบ. แก้สถานการณ์โควิด จี้ต้องจริงใจแก้ปัญหาให้ ปชช.

‘วรวัจน์’ แนะ 3 แนวทางให้ รบ. ใช้บริหารจัดการแก้สถานการณ์โควิด จี้ต้องจริงใจแก้ปัญหาให้ปชช.

เมื่อวันที่ 23 เมษายน นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า มีคนถามมาจำนวนมากว่าสถานการณ์โควิดประเทศไทยควรจะแก้ไขอย่างไร ตนขออนุญาตให้ 3 ความเห็น ในการอธิบาย โดย 1.อยากขอผู้บริหารประเทศเปิดใจ ให้ความจริงใจในการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนอย่างแท้จริงก่อน

2.โปรดทำความเข้าใจในปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง เช่น ในขณะนี้ เตียงในโรงพยาบาลมีไม่เพียงพอจริงๆ เป็นเรื่องที่แก้ไขปัญหาได้หรือไม่ เตียงสนาม ที่หน่วยงานรัฐจัดให้มีสภาพไม่เหมาะสมที่จะรองรับประชาชนที่ต้องการจะเข้าไปพักฟื้นเพื่อรอเวลาสร้างภูมิต้านทานให้แข็งแรงอย่างที่เห็นกันอยู่ กลุ่มไฮโซ หรือคนดังต่างๆ ไม่นิยมเข้าพัก จึงมีผู้ป่วยจำนวนหนึ่งไม่ได้เข้าไปอยู่ในเตียงสนามที่รัฐจัดให้ ซึ่งประชาชนโดยทั่วไปรัฐบาลไม่สามารถใช้วินัยทหารเพื่อที่จะบังคับให้เข้าไปอยู่ในนั้นได้ทั้งหมด จึงทำให้มีปัญหามีผู้ป่วยจำนวนมากตกค้างอยู่ที่บ้าน และเกิดอาการติดเชื้อทั้งครอบครัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่อัตราค่ารักษาพยาบาลในโรงพยาบาลเอกชนตอนนี้สูงมาก คนทั่วๆ รับไม่ไหว อยากให้แก้ไขด้วย

นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ โปรดกระจายอำนาจเปิดโอกาสให้จังหวัด หรืออบจ. สามารถแก้ไขปัญหาได้เอง โดยให้จังหวัดหรืออบจ.มีสิทธิ์ตัดสินใจใช้งบประมาณเองได้ เช่น เปิดโอกาสให้จังหวัด เช่าโรงแรมที่พักผู้ป่วยในอัตราสูงได้ เพื่อให้โรงแรมคุ้มค่าที่จะให้เช่า แล้วให้กลุ่มผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยงที่ยังไม่ป่วยแยกกันอยู่ในสถานที่ที่ไม่ปะปนกัน ไม่ใช่เอาคนที่ป่วยแล้วกับคนที่ยังไม่ป่วยไปอยู่รวมกันในที่เดียวกัน เตียงสนามแบบประหยัดที่รัฐบาลคิดยังไม่ใช่คำตอบ คนในท้องถิ่นจะเข้าใจคนในท้องถิ่นด้วยกันเองมากที่สุด ขออำนาจนี้ไปถึงท้องถิ่นจะได้หรือไม่

และถ้าหากมอบค่าตอบแทนแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่มีความเสี่ยงเป็น 2 เท่า ตนเชื่อว่าผู้ปฏิบัติงานทางสาธารณสุขก็จะมีกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ขึ้นมาก การขาดแคลนคนดูแลผู้ป่วย ก็จะลดน้อยลง หรือถ้ารัฐจะให้เงินช่วยเหลือ เพื่อไม่ให้ผู้ป่วย เดือดร้อนกับการต้องออกไปทำงาน เพื่อช่วยเหลือครอบครัวอีก จะสนับสนุนงบประมาณ ผ่านจังหวัด เพื่อช่วยเหลือประชาชนซักคนละ 10,000 บาท ต่อเดือน ตนว่า ประชาชนก็ยังรับได้ เพราะกลุ่มเสี่ยงและผู้ป่วย ก็จะเต็มใจเข้าไปดูแลตนเอง ในโรงแรมทั้งหมด ซึ่งจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจของประชาชนทั่วไปสามารถดำเนินการต่อไปได้

Advertisement

โดยรัฐบาลไม่ต้องเยียวยาคน 30 ล้านคน แต่รัฐบาลจะได้ดูแลคนเพียงหลักแสนคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงหรือผู้ป่วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันโควิด ยังไม่มียารักษาที่แท้จริงจะมีเพียงการส่งเสริมให้ประชาชนสร้างภูมิต้านทาน ด้วยสุขภาพที่แข็งแรง อาหารที่ครบหมู่ และวิตามิน A C E D B6 B12 เหล็ก ทองแดง แมกนีเซียม แมงกานีสหรือวิตามินZn(สังกะสี) ฯลฯ รัฐบาลจะสนับสนุนประชาชนได้หรือไม่

นายวรวัจน์ กล่าวอีกว่า วัคซีนเป็นเรื่องที่จำเป็นมาก แม้ว่าในปัจจุบัน อาจจะฉีดสร้างภูมิคุ้มกันได้เฉพาะโควิดบางสายพันธุ์เท่านั้น แต่ถ้ารัฐบาลเปิดใจให้โรงพยาบาลเอกชนนำเข้าได้โดยไม่ปิดกั้นเหมือนอย่างที่เห็นโอกาสที่คนไทย จะได้รับวัคซีนทั้งประเทศ จะเกิดขึ้นเร็วขึ้น สถานการณ์วิกฤติเศรษฐกิจก็จะคลี่คลายได้เร็วขึ้นด้วย และการฉีดวัคซีน ควรจะมุ่งเป้าไปที่รอยต่อช่องโหว่ที่จะมีกลุ่มเสี่ยงเข้ามาในประเทศไทยก่อนเชื้อโควิด มาจากต่างประเทศ อุดตรงรอยรั่วที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาก่อนก่อน ปัญหาจะลดน้อยลงมากครับ

นอกจากนี้ โปรดการยุติ กิจกรรมสีเทาที่ผิดกฎหมายเช่นบ่อนการพนัน ค็อกเทลเลาจ์ การปล่อยให้แรงงานต่างด้าวเข้าประเทศแบบผิดกฎหมาย ฯลฯ การหลบๆซ่อนๆ ของคนที่มีเชื้อโควิดและทำให้เป็นการแพร่เชื้อ ก็จะหมดไป และควรเพิ่มวงเงินให้คณะกรรมการกองทุนเงินล้าน ใช้ระบบธนาคารหมุนเวียนเม็ดเงินเพื่อช่วยเหลือประชาชนให้ตรงเป้าหมาย อย่าตีกรอบวงเงินจนผู้ประกอบการรายย่อยไม่ได้ประโยชน์จากการช่วยเหลือทางการเงินจากภาครัฐเท่าที่ควร รวมถึงส่งเสริมผลิตภัณฑ์เกษตรส่งออกในรูปของอาหาร ที่เป็นจุดแข็งของประเทศไทยก็จะเป็นการสร้างรายได้แก่ประเทศอย่างมีนัยยะสำคัญ

Advertisement

และ 3.ทั้งหมดนี้ สิ่งสำคัญคือ โปรดกรุณา ลงมือมีมาตรการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน ไม่ใช่การบริหาร เหมือนไม่ได้บริหาร โปรดทราบว่า ตอนนี้รัฐบาลใช้เงินไปเยอะมาก จนจะเกินฐานะการคลังของประเทศอยู่แล้ว แต่กลับไม่ได้ผล ประเทศไทยนี้ เป็นของพวกเราทุกคน ถ้าบริหารงานแบบนี้โอกาสที่ครอบครัวของพวกเรา หรือญาติสนิท มิตรสหายใกล้ชิดเราทุกคนวันนึงคงไม่พ้นติดเชื้อโควิดจนได้ เมืองไทย ยังมีโอกาส และยังมีอนาคตที่แข็งแรง รุ่งเรืองอีกยาวไกลมาก โปรดอย่าทำลายประเทศไทยด้วยอคติอีกต่อไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image