‘วรวัจน์’ แนะ รบ. ทุ่มงบ 5 หมื่นล. ตัดวงจรโควิด ทั้งตรวจ-แยก-ฉีดวัคซีน ในเวลาที่รวดเร็ว

“วรวัจน์” แนะ รบ. ทุ่มงบ 5 หมื่นล. ตัดวงจรโควิด ทั้งตรวจ-แยก-ฉีดวัคซีน ในเวลาที่รวดเร็ว ชี้ รบ.มีเงินทำได้

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ในระลอกที่ 3 ที่กำลังระบาดในขณะนี้ อยู่ในขั้นวิกฤต พบว่าประเทศไทยมีประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อมากกว่า 10,000 คน จนถึงหลัก 100,000 คน แต่ข้อจำกัดของการตรวจคัดกรองสามารถทำได้เพียงวันละหลักพักคน ซึ่งการตรวจคัดกรองไม่ทันกับการระบาดของเชื้อไวรัส ในขณะเดียวกันกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะพลาด ติดเชื้อโควิด เป็นพาหะแต่ยังไม่มีอาการ หรือยังจะตรวจไม่พบเชื้อในการตรวจครั้งแรกนั้น การให้กลับไปกักตัวอยู่กับบ้านอาจจะทำให้ไม่สามารถป้องกัน การระบาดได้จริงจัง ทั้งภายในบ้านและในชุมชนโดยรอบ ดังนั้น การตัดวงจรของการระบาด สามารถดำเนินการโดย หาที่พักที่เป็น Hospital ทั้งหมด ให้บุคคลที่แสดงตัวเป็นกลุ่มเสี่ยงอยู่อาศัย โดยอาจจะใช้โรงแรมหอพัก หรือบ้านพักต่างๆ แยกให้กลุ่มเสี่ยงอยู่อย่างเป็นสัดเป็นส่วน เพื่อไม่ให้มีโอกาส เป็นพาหะแพร่เชื้อไปในชุมชนหรือบุคคลอื่น

นายวรวัจน์กล่าวอีกว่า การตรวจคัดกรองผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงว่ามีเชื้อไวรัสหรือไม่ ต้องรอตรวจคัดกรองจนแน่ใจว่าไม่ติดเชื้อไวรัสแล้วจึงจะฉีดวัคซีนให้ เพราะถ้าหากกลุ่มเสี่ยงนั้นบังเอิญมีเชื้อไวรัสอยู่ แต่ยังไม่แสดงอาการแล้วเรารีบฉีดวัคซีนเข้าไป ผลจะเป็นอย่างไร ร่างกายอาจจะอ่อนแอขึ้น และอาจจะมีผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์เกิดขึ้นมาหนักขึ้นอีกหรือไม่ เมื่อดำเนินการแยกกลุ่มเสี่ยงออกมาจาก ประชาชนส่วนใหญ่แล้วก็สามารถ ให้ประชาชนโดยทั่วไปดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้ตามปกติ โดยใช้การควบคุมอย่างเข้มงวด ในระดับหนึ่งก็เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องออกมาตรการเข้มจนมีผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวันของคนส่วนใหญ่ภายในประเทศ ทั้งนี้ การดำเนินการทั้งหมดใช้คาดว่าจะงบประมาณไม่เกิน 50,000 ล้านบาท และรัฐบาลมีงบประมาณเพียงพอที่จะดำเนินการได้ในทันที

“ขอย้ำเตือน นี่คือสถานการณ์โรคระบาดของไวรัสที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่เคยมีมาของโลกดังนั้นแนวทางในการแก้ไขปัญหาจึงจะใช้แนวคิดพื้นฐานหรือดำเนินการตามปกติไม่ได้ แต่ควรใช้ทุกวิถีทางที่สามารถดำเนินการได้เพื่อยุติปัญหาการระบาดของไวรัสโควิดให้เร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของคนไทยและความอยู่รอดของประเทศไทยต่อไป” นายวรวัจน์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image