‘อันวาร์’ ทนไม่ได้ปม ‘ธรรมนัส’ จุดพลุให้ ปชป.ถอนตัวร่วมรัฐบาล

สรุปข่าวหน้า 1 : เมื่อ “อันวาร์” ทนไม่ได้ปม”ธรรมนัส” จุดพลุให้ ปชป.ถอนตัวร่วม รบ. แกน “ประชาธิปัตย์” – “บิ๊ก พปชร.” จะว่ายังไง

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ท่าทีของผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) จะตอบรับ ปฏิเสธ หรือชี้แจงอย่างไร กับข้อเสนอของนายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี และรองเลขาธิการพรรค ปชป. ที่ให้พรรค ปชป.ถอนตัวร่วมรัฐบาล รวมทั้งแกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะแกนหลักของพรรคร่วมรัฐบาลจะตอบโต้หรือมีปฏิกิริยาอย่างไรกับข้อเสนอดังกล่าว

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม นายอันวาร์ สาและ ทำหนังสือถึงประธานคณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค ปชป.ทั่วประเทศ เสนอขอให้พรรค ปชป.ถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล โดยระบุถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไม่พ้นสภาพ ส.ส.และรัฐมนตรี เพราะเป็นการกระทําผิดในต่างประเทศ และถูกจําคุกด้วยคําวินิจฉัยของศาลต่างประเทศ ซึ่งไม่ผูกกับศาลไทย แม้ในคําวินิจฉัยศาลจะพยายามอ้างเหตุผลพร้อมทั้งตัวบทกฎหมายอย่างไรก็ตาม แต่ดูเสมือนสังคมไม่ยอมรับ

รวมถึงยังมีความเห็นของสุณัย ผาสุก ที่ปรึกษาฮิวแมนไรท์วอทช์ ประจำประเทศไทยว่า “คําวินิจฉัยที่น่าตกใจยิ่งของศาลรัฐธรรมนูญนี้จะทําให้บรรดาอาชญากรทั้งหลายที่ถูกพิพากษาคดีในศาลประเทศอื่น สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งได้ในประเทศไทยอย่างไร้กังวล อาชญากรรมที่คนเหล่านี้ ก่อไว้ในต่างแดน ไม่ว่าจะร้ายแรงแค่ไหน ไม่มีความหมายในกระบวนการยุติธรรมของไทย”

นอกจากนี้สื่อออสเตรเลียยังรายงานเรื่องคําตัดสินของศาลไทยพร้อมทั้งมีคําวิจารณ์ต่อด้วยว่าโจรที่ไหนก็เข้ามาทํางานการเมืองไทยได้ ถ้าไม่ได้ทําผิดในประเทศไทย ซึ่งข่าวนี้เป็นกระแสดังไปทั่วโลกเพราะทุกประเทศก็ทราบกันดีว่าองค์การสหประชาชาติตระหนักถึงความสําคัญของปัญหายาเสพติด ที่จะต้องมีความจําเป็นในการร่วมมือระหว่างประเทศในการควบคุมจึงได้มีการจัดทําอนุสัญญาด้านยาเสพติดเพื่อให้สามารถนํามาใช้ เป็นเครื่องมือ (Legal instruments) ในการควบคุมยาเสพติด ทําให้มีอนุสัญญาที่สําคัญเกิดขึ้นจํานวน 3 ฉบับ ซึ่งอนุสัญญาทั้ง 3 ฉบับนี้ มีประเทศต่างๆ ได้ให้การยอมรับและเข้าเป็นภาคีแล้ว โดยการให้สัตยาบันเป็นจํานวนมาก สําหรับประเทศไทยนั้น ในฐานะที่เป็นสมาชิกขององค์กรสหประชาชาติจึงได้ร่วมเป็นภาคีในอนุสัญญา 3 ฉบับข้างต้นแล้ว

Advertisement

นายอันวาร์ระบุว่า ตนไม่โทษศาลรัฐธรรมนูญ และก็จะไม่โทษ ร.อ.ธรรมนัส แต่จะโทษ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรัฐมนตีว่าการกระทรวงกลาโหม เพราะปัญหาทั้งหมดเกิดจากท่านนายกฯไม่ใช่หรือ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าเบื้องหลัง ร.อ.ธรรมนัส เป็นอย่างไร แต่ไม่สนใจ กลับแต่งตั้งมาเป็นรัฐมนตรี การกระทําเช่นนั้นเท่ากับเป็นการดูแคลนประชาชนคนไทยทั้งประเทศ และเมื่อเกิดกระแสสังคมต่อต้านทําให้ ร.อ.ธรรมนัส มีความจําเป็นต้องออกมาประกาศให้สังคมทราบผ่านสื่อเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2562 ว่า “ผมคือเส้นเลือดใหญ่ เลี้ยงหัวใจรัฐบาล ผมกุมความลับ ดีลต่อรองหากล้มผมได้รัฐบาลก็สั่นคลอน” นี่น่าจะเป็นเหตุผลที่ท่านนายกฯต้องแต่งตั้งหรือไม่ ทั้งๆ ที่เคยประกาศว่าจะต่อต้านนักการเมืองเลวๆ ในทุกรูปแบบ ซึ่งท่านไม่ได้ให้คําจํากัดความว่านักการเมืองเลวๆ ในความหมายของท่านคืออย่างไร แล้วในพรรคร่วมรัฐบาลมีหรือไม่

“ดังนั้นเมื่อฝ่ายค้านเรียกร้องให้ท่านนายกฯลาออก ซึ่งท่านคงไม่ออก ท่านก็คงอยู่อย่างนี้ ทุกอย่างก็คงเหมือนเดิมเพราะพรรคร่วมรัฐบาลก็เป็นพรรคเดิม ก็คงคิดแบบเดิมๆ แนวทางที่จะแก้ไขปัญหาก็ไม่ชัดเจน ผมจึงขอเสนอสิ่งที่ผมเคยเสนอเอาไว้หลายครั้งว่า พรรคประชาธิปัตย์ควรใช้โอกาสนี้แก้ไขปัญหาของประเทศชาติ ด้วยการถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาลเพื่อเปิดโอกาสให้มีการเปลี่ยนแปลงตามกลไกของระบอบประชาธิปไตย” นายอันวาร์ระบุ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image