“วิโรจน์ ก้าวไกล” อัด “ประยุทธ์” จงใจกระทำการไม่สุจริตการกระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีน ทำปชช.เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า
เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวว่า ถ้าจำวาทกรรมของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทาวงกลาโหม ที่บอกว่า ‘อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด’ วันนี้ยืนยันแล้วว่าหลายสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดและป้องกันไม่ให้เกิดได้ พล.อ.ประยุทธ์จงใจที่จะไม่ทำ และมีเจตนาไม่สุจริตจนทำให้สิ่งที่ไม่ควรเกิดมันเกิดขึ้น
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ในเรื่องการกระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีน วันนี้เราเห็นรัฐบาลกระวีกระวาด ซึ่งนั่นเป็นการสารภาพโดยปริยายแม้จะไม่มีคำขอโทษใดๆ ต่อประชาชน ประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 นอกประเทศจีนเป็นประเทศแรกเมื่อวันที่ 13 มกราคม 63 เรามีเวลาเตรียมการรับมือมากกว่า 1 ปี แต่กว่าเราจะมีคณะทำงานในการจัดหาวัคซีนทางเลือกต้องรอถึงวันที่ 9 เมษายน 64 สิ่งนี้เป็นเครื่องบ่งชี้อย่างชัดเจนว่าพล.อ.ประยุทธ์และพวก จงใจกระทำการไม่สุจริตการกระจายความเสี่ยงในการจัดหาวัคซีน จนทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า
“นอกจากนี้ ยังพบอีกด้วยว่าแม้แต่การกระจายความเสี่ยงในการจัดหายาและเวชภัณฑ์ ในวันนี้เรามียาหลักตัวเดียว คือ ฟาวิพิราเวียร์ แต่ยาตัวอื่นที่จะให้บุคลากรทางการแพทย์ได้เลือกใช้เพื่อรักษาเยียวยา ประชนก็แทบจะไม่มีในสต็อก และยังพบอีกว่าการกระจายความเสี่ยงและการวางระบบลอจิสติกของยาที่ใช้รักษาอาการไม่พึงประสงค์ หลังจากที่ได้รับวัคซีน เช่น ยาขยายหลอดเลือด ยาละลายลิ่มเลือด เราไม่พบว่าประชาชนจะมีความมั่นใจว่าหากมีอาการไม่พึงประสงค์ร้ายแรงเกิดขึ้นจะสามารเบิกสั่งจ่ายยาเพื่อรักษาประชาชนได้ทัน ถ้ามีการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก และยังไม่นับเครื่องช่วยหายใจประเภทไม่ใส่ท่อ ที่เรียกว่าออกซิเจนไฮโฟลว์ ก็ยังไม่พบว่ามีการจัดซื้อหรือเพิ่งจะจัดซื้อในเร็ววันนี้เอง”
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ เมื่อวานนี้เราได้รับการยืนยันแล้วว่ามีผู้ติดเชื้อในเรือนจำรวมกันถึง 2,835 คน ตนยืนยันว่าผู้ติดเชื้อทั้งสองพันกว่าคนนั้นไม่ได้ติดเชื้อในวันเดียวกัน ต้องมีการทยอยติดกันเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว ดังนั้น ต้องตั้งคำถามว่าทำไมถึงปกปิดข้อมูล และที่สำคัญคือผู้ต้องขังในเรือนจำหลายคนอยู่ระหว่างการต่อสู้คดี ยังไม่มีคำพิพากษาถึงที่สุด ควรหรือไม่ที่จะปล่อยให้พวกเขาอยู่ในเรือนจำภายใต้ความบกพร่องในการจัดการสถานการณ์การระบาดโควิด-19
