ฝ่ายค้าน เล็งใช้สภาฯ เชือด ‘ประยุทธ์’ บริหารปท.ล้มเหลว อนุสรณ์ ชวนจับตาหาเสียงผ่านวัคซีน

ฝ่ายค้าน เล็งใช้สภาฯ เชือด ‘ประยุทธ์’ บริหารปท.ล้มเหลว อนุสรณ์ ชวนจับตาหาเสียงผ่านวัคซีน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 15 พฤษภาคม ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคพท. กล่าวถึงกรณีพรรคร่วมฝ่ายค้านได้เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขอให้ไต่สวนเอาผิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รับมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด-19 (ศบค.) แก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ล้มเหลว ว่า ขณะนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านแต่ละพรรคได้ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์โควิด-19 หลังจากนี้ตัวแทนพรรคร่วมฝ่ายค้านจากทุกพรรคจะได้ร่วมหารือกันถึงการเตรียมการยื่นญัตติอภิปรายปมการแก้ปัญหาวิกฤติโควิด-19 ของรัฐบาล ทั้งมาตรา 152 ขอเปิดอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ และ อภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามมาตรา 151 พล.อ.ประยุทธ์

ตั้งแต่ประเด็นการปล่อยปล่อยแก๊งกักตุนแมสก์ลอยนวล การไม่ลงโทษ 2 รัฐมนตรี ทำเชื้อโควิด-19 ระบาด สาเหตุที่โครงการนำเข้าวัคซีนทางเลือกของสมาคมโรงพยาบาลเอกชนไม่คืบหน้าเพราะเหตุใด ติดขัดตรงไหนเกี่ยวกับการณีการไปติดช่องต้องซื้อผ่านองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ที่ต้องคิดค่าบริหารจัดการ 5-10% บวก VAT อีก 7% จริงหรือไม่ การขึ้นทะเบียนวัคซีนในไทย ที่วันนี้ยังมีแค่ 4 ยี่ห้อ แอสตราเซเนกา-ซิโนแวค-จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน และโมเดอร์นา ที่อย.เพิ่งขึ้นทะเบียน วัคซีนไฟเซอร์-สปุตนิก ที่รัฐบาลไปขอซื้อมากู้หน้าแก้วิกฤติดำเนินการถึงขั้นตอนใด

“พรรคร่วมรัฐบาลยังออกปากยอมรับว่า แก้วิกฤตโควิดล้มเหลว โดยพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยังพูดด้วยซ้ำว่ารัฐบาลใช้หน่วยงานความมั่นคงนำการสาธารณะสุขแล้วจะแก้ปัญหาได้อย่างไร หากมีพฤติการณ์ส่อทุจริต ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง รู้เห็นเจ้าหน้าที่ แสวงหาประโยชน์มิชอบ ขัดรัฐธรรมนูญและกฎหมายอื่น ปิดทางเลือกให้คนไทยนอนรอความตาย ฝ่ายค้านต้องดำเนินการตรวจสอบรัฐบาลผ่านกลไกสภาเพื่อให้ปัญหาได้รับการแก้ไข” นายอนุสรณ์ กล่าว

จี้ รัฐบาลเปิดไทม์ไลน์ปูพรมฉีดวัคซีน

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคพท. กล่าวถึงกรณี รัฐบาลพยายามจัดโปรแกรมฉีดวัคซีนแบบปูพรมบรรดากลุ่มเสี่ยง ไฟเขียวให้แต่ละจังหวัดบริหารจัดการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินทั่วประเทศ ว่า ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายออกมาเตือนแล้วว่า ต้องเร่งฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุด และฉีดให้ได้มากที่สุด แต่รัฐบาลก็ไม่ได้เร่งฉีด ครั้นจวนตัวถูกกดดันด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่พุ่ง ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มสูง จึงเพิ่งมาเริ่มดำเนินการ ประกาศให้การฉีดวัคซีนเป็นวาระแห่งชาติ ในขณะที่เครดิตความเชื่อมั่นของรัฐบาลแทบไม่เหลือ การสื่อสารมีปัญหา ประชาชนตื่นตระหนก หวาดผวาผลข้างเคียง จนเกิดคำถาม ระหว่างกลัวติดโควิดกับกลัวผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีน อย่างไหนน่ากลัวมากกว่ากัน

Advertisement

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า การฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินตามสถานที่ต่างๆ ที่แม้แต่รัฐบาลยังออกมายอมรับว่าเกิดความเข้าใจผิดและสับสนกันมาก แม้จะแก้เกี้ยวว่าการการฉีดวัคซีนแบบวอล์กอิน จะเริ่มในเดือนมิถุนายน เพราะจะมีวัคซีนเข้ามาจำนวนมาก ไม่ใช่วันนี้พรุ่งนี้ แต่รัฐบาลก็ควรมีไทม์ไลน์ที่ชัดเจน แบ่งสัดส่วนการให้บริการกับผู้ลงทะเบียนแอพหมอพร้อม

กลุ่มที่นัดเป็นกลุ่มก้อน เช่น อสม. หรือองค์กรภาครัฐและเอกชนรวบรวม และวอล์กอินจากประชาชนทั่วไปอย่างไร ต้องระบุให้ชัด รัฐบาลเก่งขนาดเขียนยุทธศาสตร์ชาติล่วงหน้า 20 ปีได้ การฉีดวัคซีนแบบวอล์กอินที่จะเริ่มในเดือนมิถุนายน ต้องมีไทม์ไลน์และแผนงานที่ชัดเจน มีวัคซีนในมืออย่างไร วัคซีนใดขึ้นทะเบียนแล้ว วัคซีนใดอยู่ระหว่างการดำเนินการ มีความครอบคลุมหลากหลาย เพียงพอกับประชาชน หรือไม่

นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อประชาชนติดต่อไปที่กรุงเทพมหานครเพื่อรับการฉีดวัคซีน กรุงเทพมหานครก็บอกว่ารับเรื่องไว้ได้ แล้วจะติดต่อกลับ จนได้ตั้งข้อสังเกตว่า รัฐบาลขับเคลื่อนการฉีดวัคซีนผ่านกรุงเทพมหานคร เพื่อหาคะแนนเสียง คล้ายๆ กับทำงานแข่งกับกระทรวงสาธารณสุข เหมือนที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังยอมรับเองว่าประชาชนสับสน

Advertisement

“อย่าให้ประชาชนมองว่า การปูพรมฉีดแบบวอล์คอิน เป็นเรื่องเพ้อเจ้อ รัฐบาลอย่าถนัดแต่พูดเอาหน้าแล้วให้เจ้าหน้าที่ตามไปแก้ปัญหาไปเป็นวันๆ เอาเอง ต้องมีไทม์ไลน์การฉีดและแผนงานที่ชัดเจนโปร่งใสตรวจสอบได้” นายอนุสรณ์ กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image