“จุรินทร์” แนะวิป 3 ฝ่าย เร่งหาทางออก หลัง ศบค.ออกมาตการกระทบการประชุมกมธ.

“จุรินทร์” แนะวิป 3 ฝ่าย เร่งหาทางออก หลัง ศบค.ออกมาตการกระทบการประชุมกมธ. อาจส่งผล งบ.65 พิจารณาไม่ทัน 105 วัน

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม เวลา 10.40 น. ที่หมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 2 เขตลาดพร้าว นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงการที่ ศบค. ออกมาตรการที่อาจส่งผล กระทบต่อการประชุมคณะกรรมาธิการของสภาฯซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องเป็นไปตามกฎที่ผู้มีหน้าที่เป็นผู้กำหนด แต่การที่จะดำเนินการในสภาต่อไปอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และวิปทั้ง 3 ฝ่าย ทั้งวิปรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา ที่จะต้องมาคุยกันว่าจะดำเนินการอย่างไร

นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า สำหรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีฯ หากไม่มีการประชุม หรือยังไม่สามารถที่จะประชุมคณะกรรมาธิการได้ ก็จะมีผลกระทบในแง่ของเงื่อนเวลา เพราะตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า เมื่อร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ได้ส่งถึงรัฐสภาแล้ว สภาผู้แทนราษฎรจะต้องพิจารณาให้เสร็จสิ้นภายใน 105 วัน ขณะนี้ถือว่าร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่าย ได้ส่งถึงสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ดังนั้นในเงื่อนเวลา 105 วันนี้ ได้เริ่มนับหนึ่งแล้ว หากผ่านวาระที่ 1 และไปสู่วาระที่ 2 ของการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯหากคณะกรรมาธิการฯไม่สามารถประชุมได้ ก็จะมีผลกระทบในเรื่องเงื่อนเวลาการทำหน้าที่ของสภาฯ ซึ่งเป็นเรื่องที่วิป3 ฝ่าย จะต้องไปพิจารณาร่วมกัน ว่าจะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะว่าหลังจากผ่านสภาผู้แทนราษฎรแล้ว วุฒิสภาก็มีเงื่อนเวลาที่จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน ตามรัฐธรรมนูญ

เมื่อถามว่า หากการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ จะต้องสะดุดหยุดลงจะส่งผลกระทบต่อประเทศอย่างไร หรืออาจต้องเลื่อนการพิจารณาออกไปก่อน นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าจะสามารถเลื่อนออกไปได้หรือไม่ เพราะเท่าที่ตนติดตามจากเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ตอบว่าขณะนี้ถือว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯได้ส่งถึงสภาแล้ว เมื่อวันที่ 17 พ.ค. เพราะฉะนั้นในเงื่อนเวลา 105 วัน ได้นับหนึ่งแล้ว ดังนั้นจะกระทบมากน้อยแค่ไหนอย่างไร หรือไม่กระทบ คิดว่าวิปต้องรีบประชุมหารือกันว่าจะดำเนินการอย่างไร หากไม่สามารถประชุมคณะกรรมาธิการฯได้ หรือ คณะกรรมาธิการฯจะต้องเร่งรัดทำให้เสร็จเร็วเป็นพิเศษ

เมื่อถามถึงความเห็นต่อ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯที่เกี่ยวกับการจัดงบประมาณเพื่อรองรับการแก้ปัญหาโควิด-19 รองนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ความจริงก็มีอยู่ในนั้นส่วนหนึ่ง ขอให้ผู้ที่มีหน้าที่ได้แจกแจงรายละเอียดในสภาฯ เมื่อถึงเวลาที่มีการอภิปราย นอกจากนั้นยังมีเงินกู้อีกก้อนหนึ่ง หรือเงินกู้เดิมที่ยังเหลืออยู่จำนวนหนึ่งก็สามารถที่จะนำมาใช้ในการคลี่คลายสถานการณ์โควิด และเศรษฐกิจควบคู่กันไปได้ด้วย ส่วนที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการที่รัฐบาลเตรียมออก พ.ร.ก. กู้เงิน 7 แสนล้านบาทนั้นเรื่องนี้ตนเคยให้ความเห็นไปแล้วว่า รัฐบาลก็ต้องพิจารณาความจำเป็นทั้งสองด้าน ทั้งการแก้ปัญหาโควิด และการแก้ปัญหาเศรษฐกิจควบคู่กันไป เพราะทั้งสองปัญหานี้เป็นเงื่อนปัญหาที่เราจะต้องพาประเทศฟันฝ่าให้ผ่านพ้นไปให้ได้ ซึ่งเงินกู้ที่จะมีการดำเนินการนั้นก็จะต้องมุ่งเน้นในเรื่องของการแก้ปัญหาทั้งสองส่วนไปด้วยกัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image