แท็กซี่ต้านรัฐประหาร 57 ปราศรัยหน้าหอศิลป์ ชี้ 7 ปีนานเกินไปแล้ว เผยฝันถึงวันโต้กลับของพลเมือง

 

แท็กซี่ต้านรัฐประหาร 57 ปราศรัยหน้าหอศิลป์ ชี้ 7 ปีนานเกินไปแล้ว เผยฝันถึงวันโต้กลับของพลเมือง

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ที่ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แยกปทุมวัน กรุงเทพฯ กลุ่ม People Go Network นัดหมายทำกิจกรรม ‘เปิดไฟให้ดาว Finale-LightUp Freedom
We have a Dream – เรายังฝันอยู่’ โดยกำหนดการจะเริ่มต้นในเวลา 18.00 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเมื่อเวลา 17.30 น. ประชาชนทยอยเดินทางเข้าร่วมโดยกลุ่มคนเสื้อแดงจับกลุ่มรวมตัวพูดคุยพร้อมนำเสื้อยืดมีลวดลายเป็นภาพนักกิจกรรมทางการเมืองมาแจกจ่ายรวมถึงจำหน่ายให้ผู้สนใจ ในขณะที่บางส่วนกระจายตัวรอบๆลาน นำแผ่นป้ายข้อความ ‘7 ปีแล้วนะ….’ แขวนบนแผงรั้วเหล็กข้างลานหอศิลป์ รวมถึงมีผู้นำภาพพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมข้อความ ‘#ยกเลิกประยุทธ์’ วางบนพื้นทางขึ้นบันไดสู่สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสอีกด้วย

ทั้งนี้ ผู้จัดได้เตรียมสถานที่โดยมีเบาะรองที่นั่งที่กำหนดระยะห่าง มีเครื่องตรวจวัดอุณหภูมิ เจลล้างมือ และหน้ากากอนามัยไว้รองรับ สำหรับเวที และเตรียมการล้างไมโครโฟนทุกครั้งที่เปลี่ยนผู้ปราศรัยรวมถึงการแสดง

Advertisement

เวลาประมาณ 17.40 น. ดร.ถนอม ขาภักดี นักสิจารณ์ศิลปะชื่อดัง และผศ.ดร. ภาสกร อินทุมาร
อาจารย์คณะศิลปกรรมศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์เดินทางมาถึง ตามด้วยนายเลิศศักดิ์ คำคงศักดิ์ แกนนำกลุ่ม People Go Network ซึ่งเคยอดอาหารหน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก

เวลาประมาณ 17.50 น. มีการนำกระดาษสีขาววางบนพื้น มีข้อความเชิญชวนให้ร่วมกัน ‘เขียนความฝัน’ ด้วยปากกาเมจิกสีแดง

Advertisement

ในช่วงเวลาเดียวกัน กลุ่มประชาชนที่ทำกิจกรรมกางร่ม ‘ยืนหยุดขัง’ ดาวกระจายบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยทุกวัน เดินทางมายืนกางร่มบนสกายวอล์ก หันหน้าเข้าสู่ลานหอศิลป์กทม. โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจในเครื่องแบบดูแลใกล้ชิด

เวลา 18.00 น. กลุ่ม ‘ราษดรัม’ ทำการแสดงเปิดกิจกรรมอย่างเป็นทางการ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวันเข้าพูดคุยกับผู้จัด รวมถึงชี้แจงว่าสถานการณ์ขณะนี้อยู่ภายใต้ พรก.ฉุกเฉิน ประชาชนที่รอร่วมกิจกรรมส่งเสียงโห่ กลุ่ม ‘ราษดรัม’ รัวกลอง เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงอ่านประกาศต่อไปจนจบ จากนั้นเดินขึ้นบันไดสู่สกายวอล์ก ประชาชนยังคงส่งเสียงโห่ตลอดเวลาจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินลับสายตาไป

เวลา 18.15 น. นางสาวพริม มณีโชติ หรือเอ๋ย ผู้ดำเนินรายการ กล่าวผ่านไมโครโฟนว่า ตนอยากตั้งคำถามว่า เหตุใดกลุ่มต้านรัฐประหาร เรียกร้องประชาธิปไตยจึงต้องช่วงชิงพื้นที่บริเวณนี้ในการทำกิจกรรม ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งสามารถจัดกิจกรรมได้

จากนั้น นายวรรณเกียรติ ชูสุวรรณ คนขับแท็กซี่ หนึ่งในพลเมืองโต้กลับ กล่าวปราศรัยในหัวข้อ ‘ฝันถึงวันโต้กลับของพลเมือง’

นายวรรณเกียรติกล่าวว่า ส่วนตัวตนเชื่อว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา รู้ว่าการรัฐประหารเป็นสิ่งไม่ดี ไม่อย่างนั้นคงไม่บอกว่า ‘ขอเวลาอีกไม่นาน’ แต่เวลา 7 ปี นานเกินไปแล้ว

“นับแต่ปี 2475 ไทยมีรัฐประหาร 13 ครั้ง ในขีวิตผมทันเห็น 3 ครั้ง ครั้งแรกปี 2534 รสช. ตอนนั้น 12 ขวบ ไม่ได้ทำอะไร เป็นเด็กที่ดูข่าว มีประกาศห้ามนู่นนี่นั่น เห็นประชาชนออกมาประท้วง ต่อมา ปี 2535 เห็นการสลายชุมนุมบนถนนราชดำเนิน รับรู้ข้อมูลแค่นั้น และอีกครั้งหนึ่งคือ 19 กันยายน 2549 ตอนนั้นทำงานอยู่ประเทศเพื่อนบ้าน น้ำตาไหล เพราะการเสียสละของประชาชนปี 35 สูญเปล่า คนออกบัตรเขิญวันนั้นต่างเป็นเพื่อนพี่น้องของคนสละชีพในปี 35 ทั้งสิ้น

ล่าสุด รัฐประหารปี 2557 ผมออกมาต่อต้านจนโดนคดี ขอสรุปว่า การรัฐประหารที่ดึงประชาธิปไตยถอยหลัง 13 ครั้ง ในขณะที่การเลือกตั้งมี 27 ครั้ง เราต้องใช้การเลือกตั้งมาเพื่อดึงประชาธิปไตยให้ก้าวหน้า” นายวรรณเกียรติกล่าว

จากนั้น เป็นการแสดง โดย นาฏ พระจันทร์เสี้ยวการละคร ซึ่งนำกระดาษสีขาวที่ประชาชนเขียนข้อความเกี่ยวกับความฝันของตน มาห่อหุ้มร่างกาย จากนั้น มีการเปิดเพลง ‘เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน’ โดยผู้แสดงซึ่งสวมใส่ชุดยาวสีขาวนำสีแดงมาสาดใส่บนร่างกายตนเองก่อนล้มลงนอนลนพื้นลานหอศิลป์ โดยประชาชนปรบมือกึกก้อง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image