‘ปธ.ป.ป.ช.’คาดสรุปคดีสลาย’พธม.-นปช.’สิ้นก.ย.นี้


‘ปธ.ป.ป.ช.’คาดสรุปคดีสลาย’พธม.-นปช.’สิ้นก.ย.นี้ รับ 2 คดีบริบทคล้ายกัน ยันรอบคอบ ยึดตามพยานหลักฐาน

เมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. กล่าวถึงการพิจารณาขอถอนฟ้องคดีสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) เมื่อปี 2551 ว่าทางคณะทำงานชุดของเลขาธิการร ป.ป.ช. ได้สรุปเรื่องดังกล่าว พร้อมที่จะนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้บรรจุวาระเข้าสู่ที่ประชุม เนื่องจากเห็นว่าควรรอพิจารณาพร้อมกับกรณีที่แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ขอให้ทบทวนมติคณะกรรมการ ป.ป.ช.กรณีตีตกข้อกล่าวหานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี สลายการชุมนุมกลุ่ม นปช.เมื่อปี 2553 โดยมิชอบ เพราะถือว่าเป็นการร้องขอความเป็นธรรมมาทั้งสองกรณี ทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.กำลังจะพิจารณาทั้งสองเรื่องไปพร้อมๆ กัน เพื่อเป็นการเทียบเคียงและศึกษารายละเอียดให้มากขึ้น เพราะทั้งสองฝ่ายต่างขอความเป็นธรรมเข้ามาที่ ป.ป.ช.

พล.ต.อ.วัชรพลกล่าวด้วยว่า เรื่องเหล่านี้เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน และความรับผิดทางอาญา จึงต้องพิจารณาอย่างรอบคอบมากเพื่อความชัดเจน จึงไม่สามารถสรุปได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ การร้องขอความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายต่างก็พยายามหาหลักฐานใหม่มาเป็นเหตุผลในการสนับสนุน โดยกรณีสลายการชุมนุมปี 2551 ผู้ถูกกล่าวหาได้ร้องขอความเป็นธรรมเรื่องการวินิจฉัยที่เขามีมูลกระทำความผิดทางอาญาแล้วมีพยานหลักฐานใหม่ที่จะให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้หยิบยกขึ้นมาไต่สวนเพิ่มเติม ส่วนกรณีสลายการชุมนุมปี 2553 ได้มาขอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.หยิบยกขึ้นมาไต่สวนอีกหลังจากคณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาว่าคดีไม่มีมูลและให้ตกไป ซึ่งผู้กล่าวหาอยากให้มีการไต่สวนหาตัวผู้กระทำผิดในเชิงนโยบาย แต่ในเชิงปฏิบัตินั้น ตามกฎหมายก็ดำเนินการต่ออยู่แล้วโดยกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งเป็นไปตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ชุดเดิม ทั้งสองคดีมีบริบทที่คล้ายกัน คณะกรรมการป.ป.ช.จึงต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วน ขึ้นอยู่กับว่ามีพยานหลักฐานใหม่ๆ อย่างไร มีจริงหรือไม่ เพราะโดยกฎหมาย หากไม่ใช่หลักฐานใหม่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ไม่สามารถหยิบยกขึ้นมาไต่สวนได้อีก ส่วนรายละเอียดที่คณะทำงานสรุปมาให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.นั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่จะต้องดูไปพร้อมกันทั้งสองคดี โดยหากบรรจุวาระการประชุม ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.จะต้องพิจารณาว่าเป็นหลักฐานใหม่หรือไม่ใหม่อย่างไร อยู่ในอำนาจวินิจฉัยของคณะกรรมการ ป.ป.ช.

“คาดว่าจะหาข้อสรุปให้ได้ภายในเดือนกันยายนนี้ เพราะผมเองอยากให้เสร็จ ความจริงแล้วหลายเรื่องกรรมการอยากเร่งรัด ไม่ว่าคดีสำคัญอย่างไรพยายามที่จะพิจารณาให้แล้วเสร็จ ทั้งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีทางการเมืองในอดีตที่ผ่านมา หลายเรื่องชี้มูลความผิดส่งอัยการไปแล้ว บางเรื่องที่เป็นเรื่องถอดถอนได้ส่งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไปแล้ว” พล.ต.อ.วัชรพลกล่าว

ADVERTISMENT