‘จิรายุ’ ฉะ ขรก.ถอดชฎาก่อนแจง กมธ.งบ ชี้ฝ่ายค้านทำงานเหมือนอภิปรายไม่ไว้วางใจ
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 มิถุนายน ที่รัฐสภา น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 สภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังการประชุม กมธ.
น.ส.ธีรรัตน์กล่าวว่า ในการพิจารณางบประมาณที่ผ่านมา กมธ.ใช้เวลาไปแล้ว 9 วัน รวมทั้งสิ้น 68 ชั่วโมง มีหน่วยงานที่ผ่านการพิจารณาแล้ว 2 กระทรวง คือกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ และ 3 กองทุน คิดเป็น 7.4% ซึ่งเมื่อวานนี้ กมธ.ได้พิจารณาภาพรวมของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และพิจารณางบประมาณของสำนักงานปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม 1 หน่วยงาน โดยในการพิจารณาภาพรวมของกระทรวงดิจิทัล กมธ.ได้หารือเกี่ยวกับการป้องกันข่าวปลอมและข่าวที่บิดเบือนจากความเป็นจริง
ทั้งนี้ มี กมธ.เห็นว่าโครงการต่อต้านข่าวปลอมของหน่วยงานไม่สามารถทำตามมาตรฐานสากลของเครือข่ายตรวจสอบข้อเท็จจริงนานาชาติอย่างที่หน่วยงานเคยกล่าวไว้ เพราะมีลักษณะการติดตามและตรวจสอบข้อมูลข่าวปลอมให้เฉพาะบางกลุ่มเท่านั้น ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลได้ชี้แจงว่า หน่วยงานจะมีการตรวจสอบเฉพาะข่าวที่สามารถหาผู้ให้ข้อเท็จจริงได้เท่านั้น เช่น หน่วยงานของรัฐต่างๆ ข่าวที่อาจต้องตรวจสอบจากแหล่งข้อมูลในต่างประเทศจึงอาจไม่สามารถตรวจสอบได้
ด้านนายจิรายุกล่าวว่า ในการตรวจสอบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ใช้เงินกู้และตั้งงบประมาณแบบขาดดุลมาตลอดเกือบ 7 ปี ฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ในรูปแบบการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เช่น มีการสอบถามกรณีเน็ตประชารัฐที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ มีแนวคิดให้ประชาชนตามชายขอบมีอินเตอร์เน็ตไว้บริการ กมธ.ได้ยกประเด็นสำคัญคือ กสทช.ได้มีการจ้างกระทรวงดิจิทัล และ TOT ในการดำเนินการติดตั้งโครงข่ายเน็ตชายขอบเป็นเงินหลายพันล้านบาท ปรากฏว่ามีการสอดไส้ เช่น สายใช้สเปก A แต่ TOT ไปใช้สเปก B กสทช.จึงมีมติออกกฎหมายขอยกเลิกสัญญาจ้างระหว่าง กสทช.กับ TOT ภายใต้สังกัดกระทรวงดิจิทัล และเรียกค่าปรับ จำนวน 700 ล้านบาท ซึ่งปลัดกระทรวงดิจิทัลไม่ตอบแต่โยนให้นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล และ กสทช.
นอกจากนี้ กมธ.ยังได้สอบถามกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งได้รับงบประมาณมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์ จำนวน 1,800 ล้านบาท ทางกรมอุตุชี้แจงว่าจะนำไปช่วยบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่ง กมธ.ไม่เห็นด้วยเพราะเป็นเรื่องของวิทยุการบิน รวมถึงกรณีของศูนย์ดิจิทัลชุมชนมีเอกสารหลุดไปยังผู้สมัคร ส.ส.และ ส.ก.ทั้งในเขตกรุงเทพฯ และจังหวัดอื่นๆ ของพรรคการเมืองซีกรัฐบาล โดยมีการระบุว่าหากจะตั้งศูนย์ดิจิทัลชุมชน ให้ทางผู้สมัครไปดำเนินการในพื้นที่ของตนจะได้เป็นผลงานทางด้านการเมือง
“อย่างไรก็ตาม ตนของฝากไปยังผู้ที่เข้ามาชี้แจงว่า ท่านใช้เงินภาษีของประชาชน กรุณาถอดชฎาก่อนเข้าประชุม กมธ.งบประมาณ” นายจิรายุกล่าว