“วิโรจน์” อัดเละ แก้ระบบเลือกตั้ง เอื้อสารพัดวิชามาร ปูทาง เป็นรธน.ฉบับ คสช.กลายพันธุ์

“วิโรจน์” อัดเละ แก้ระบบลต.เอื้อกลุ่มอิทธิพลการเมืองคุมคะแนนปชช. บอก ปี 40 เราพบกับ กกต.ชั้นดี ในยุคนี้ไม่รู้ กกต.ชั้นไหน ลั่น ต้องแก้ ม.272 ปิดสวิตซ์ ส.ว.ที่เลือก ”ประยุทธ์” มาก่อกรรมทำเข็ญกับปชช.

เมื่อเวลา 20.50 น. วันที่ 23 มิถุนายน ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) อภิปรายว่า จุดมุ่งหมายสำคัญในการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ มีความพยายามที่จะแก้ระบบเลือกตั้งให้ส.ส.แบบเบ่งเขต 400 คน บัญชีรายชื่อ 100 คน เขตที่มากขึ้นทำให้เขตเล็กลง เอื้อให้กลุ่มอิทธิพลทางการเมืองคุมคะแนนเสียงของประชาชน ถ้าเป็นอย่างนี้วิชามารที่เคยใช้กันมาไม่ว่าจะเป็นพลร่ม ไพ่ไฟ เวียนเทียน บัตรเขย่ง คืนหมาหอน จะกลับมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แล้วประจวบเหมาะกับการแก้ไขมาตรา 144 ที่เดิมมีบทลงโทษของการเข้าไปแทรกแซงการใช้งบประมาณ ทั้งทางตรงและทางอ้อม และกับการมาตรา 185 ให้แทรกแซงการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการให้นักการเมืองไปวางคนในพื้นที่ตัวเองได้ และที่สำคัญให้งบประมาณมาทำโครงการได้ ประจวบเหมาะกับร่างงบประะมาณ2565 ที่กำลังจะผ่าน และเงินกู้ 5 แสนล้านบาทที่ประชาชนกำลังจะแบกรับภาระ

“ผมจึงยืนยันว่า รัฐธรรมนูญที่ถูกแก้ในครั้งนี้ มีเจตนาแอบแฝงคือแก้เพื่อมาโกง แต่เดิมผมสงสัยว่าจะไปจูงใจวุฒิสมาชิกมาโหวตให้ได้อย่างไร ปรากฎว่าในการแก้มาตรา 144 กับมาตรา 185 มี ส.ว.มาเอี่ยวด้วย ซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้ผมขอเรียกว่าฉบับ คสช.กลายพันธุ์ อย่าอ้างว่าให้รับก่อนแล้วเดี๋ยวไปแก้ที่หลัง สังคมไทยเราช้ำกับคำนี้มากี่รอบแล้ว ดีลแบบนี้เราถูกหลอกมากี่หนแล้ว รับไปก่อนแล้วแก้ทีหลังผมขอตั้งคำถามว่าในเมื่อหลักการวาระหนึ่ง จะแก้มาตรา 144 กับมาตรา 185 แล้วกมธ.ในวาระที่สองจะแก้ให้กับไปไม่แก้ได้อย่าง ที่สำคัญมีอะไรการันตีว่ากมธ.ในวาระที่สองจะแก้กลับไปเป็นแบบเดิม ประชาชนถูกหลอกซ้ำหลอกซ้อนมากี่ครั้วแล้ว” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ตนคิดว่าเรื่องนี้ต้องรับมาเป็นบทเรียน โดยเปิดโอกาสให้ส.ว.มาร่วมสังฆกรรมด้วย และที่นายวันชัย สอนศิริ ส.ว. อภิปรายว่า มีหลายคนเอาดีใส่ตัวเอาชั่วมาใส่ส.ว. ตนขอให้นายวันชัยรอดูการโหวตของส.ว.ว่าท่านใดจะโหวตอย่างไร เดี๋ยวก็จะรู้ว่ามีคนเอาชั่วมาใส่ ส.ว.หรือมีส.ว.บางคนมีความชั่วเป็นเหมือนสนิมที่เกิดจากเนื้อในตน

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า มีคนพูดอยู่นั่นว่าระบบการเลือกตั้งเราจะเอารัฐธรรมนูญปี 40 มาใช้ เรากำลังจะเอาของ 20 ปีก่อนมาใช้ใน 20 ปีถัดมา ขอตั้งคำถามว่าสังคมวันนี้เราเปลี่ยนขนาดไหนแล้ว สังคมที่แตกต่างหลากหลาย สังคมที่ประชาชนเรียกร้องให้เราเอาฝุ่นใต้พรมขึ้นมาแก้ ปรับปรุงสวัสดิภาพทางสังคมให้ดีขึ้น ปรับปรุงความสามารถของประเทศของพลเมืองให้สามารถแข่งขันกับโลกยุคใหม่ได้ ซึ่งบริบทของระบบการเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญปี 40 ที่มุ่งสร้างสองพรรคใหญ่ในระบบนิวเวศน์เดิม จะสามารถตอบโจทย์พี่น้องประชาชนในยุคนี้ได้อย่างไร จะมั่นใจได้อย่างไรว่าฝุ่นใต้พรมต่างๆ การปฏิรูปต่างๆที่ประชาชน และประเทศนี้ต้องการ จะถูกพูดถึงในสภาฯแห่งนี้ จะถูกขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ระบบการเลือกตั้งปี 40 ไม่ได้อยู่ในระบบนิเวศน์ในปี 40 แต่เจอกับเงื่อนไขของ คสช. มัดตราสังข์ สร้างพันธนาการ ส.ว.ยุคนั้นเลือกตั้ง ยุคนี้มาจากการแต่งตั้ง หรือมาจากกลไกลของการแต่งตั้งของ คสช. ที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกฯ เป็นผู้เลือก องค์กรอิสระอย่างคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ในปี 40 เราพบกับ กกต.ชั้นดี ตนคงไม่ต้องบอกว่าในยุคนี้ กกต.ชั้นไหน แล้วยังเจอกับเงื่อนไขปิดตายอีกเยอะ

Advertisement

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ที่ต้องแก้ มาตรา 272 ไม่ต้องมาอ้างว่าทำประชามติผ่านมา ได้รับคะแนนมาแล้ว 16 ล้านเสียง วันนั้นมีประชาชนถูกจับจาก คสช.เท่าไร และรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ใช่ฉบับที่ทำประชามติผ่านมา และหลังจากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ มีการแก้รัฐธรรมนูญอีกหลายมาตราโดยไม่ได้ทำประชามติซ้ำ ดังนั้นเลิกวาทกรรมว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านประชามติเสียที นอกจากนี้คำถามระหว่างทำประชามติ ยังมีคำถามพ่วงแถมยังมีคำถามนำด้วย ไม่หนำใจยังมีการสร้างคำกำกวมว่าให้ที่ประชุมรัฐสภาเลือกนายกฯ ทำไมไม่ถามตรงๆ ไปเลยว่าให้ ส.ว.เลือกนายกฯ ได้หรือไม่ ประชาชนไม่เข้าใจว่าที่ประชุมร่วมคืออะไร ที่สำคัญมีคลิปวิดีโอของท่านหนึ่งซึ่งปัจจุบันเป็น ส.ว.บอกไว้เลยว่าท่านเป็นคนใส่มาตรานี้เอาไว้เอง และจะมี 250 เสียงในกระเป๋า หาแค่อีกร้อยกว่าเสียง คนของ คสช.จะได้กลับมาเป็นนายกฯ ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์เลือก ส.ว.250 คนไว้ก่อนจะมีการเลือกตั้ง ตนจำไม่ลืมว่า ส.ว.ไม่แตกแถว เลือก พล.อ.ประยุทธ์เข้ามา

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ส่วนที่ ส.ว.อ้างว่าอยากเห็นการแก้ปัญหาโควิดก่อน ต้องถามกลับว่าหากท่านห่วงใยจริง ต้องลงรายละเอียด วันนี้หลายคนถูกเลื่อนฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ที่ว่าจะมาไตรมาสสามถูกเลื่อนไปไตรมาสสี่ บุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับวัคซีนซิแวคสองเข็มแล้วติดเชื้อ ล้วนอยู่ภายใต้การบริหารของ พล.อ.ประยุทธ์ ขอถามว่าใครเลือก พล.อ.ประยุทธ์เข้ามาเป็นนายกฯ ไม่ใช่ ส.ว.250 คนหรือ และที่ต้องปิดสวิตช์ ส.ว.250 คนตัดประธานออกไปหนึ่งเสียงเหลือ 249 คน เลือกคนๆ นี้มาก่อกรรมทำเข็ญกับประชาชนขนาดนี้ ถามว่าทำไมเราต้องไม่ปิดสวิตช์ ส.ว.เพื่อไม่ให้เลือกคนๆ นี้กลับเข้ามาอีก ในเมื่อเลือกคนผิดให้ประชาชนแล้วยังคิดจะเลือกอีหรือ

“ผมอ่านข่าวแล้วไม่สบายใจที่มี ส.ว.บอกว่า ส.ส.ลุแก่อำนาจมาปิดสวิตช์ ส.ว. ถามว่าใครกันแน่ที่ลุแก่อำนาจ ในเมื่อ ส.ส.ยึดโยงจากประชาชน อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ส.ว.ก็ทราบดีว่าท่านมาจากกลไกของ คสช. และพล.อ.ประยุทธ์มีส่วนเลือกท่านมา ดังนั้นยืนยันว่าต้องทำประชามติเพื่อคืนอำนาจแก้รัฐธรรมนูญคืนไปสู่ประชาชน ให้อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญอยู่ที่ประชาชน และในวันนั้นไม่ใช่แค่ปิดสวิตช์ ส.ว. ถ้า ส.ว.ยังไม่คุมกันเองและยังมีท่าทีเป็นปรปักษ์ต่อประชาชนอย่างนี้ ไม่ใช่แค่ปิดสวิตช์ ส.ว. วันนั้นต้องรื้อสวิตช์ และเหลือแค่สภาฯ ที่ยึดโยงกับประชาชน” นายวิโรจน์ กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image