อดีตเลขาฯ สมช. ชี้ ‘ประยุทธ์’ เจอแต่เสียงโห่ไล่ ถึงจุดไร้คนเชื่อถือ จับตา 18 ก.ค.มีม็อบใหญ่แน่

อดีตเลขาฯ สมช. ชี้ ‘ประยุทธ์’ เจอแต่เสียงโห่ไล่ ถึงจุดไร้คนเชื่อถือ จับตา 18 ..มีม็อบใหญ่แน่

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พล..ภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีสืบทอดอำนาจได้มาถึงจุดที่ไม่หลงเหลือคุณค่าความน่าเชื่อถือต่อประชาชนตลอดไป ซึ่งเป็นผลมาจากการก่อกรรมทำเข็ญไว้กับประเทศชาติ ไล่เรียงให้เห็นได้จากปรากฏการณ์ 1.พัวพันการรัฐประหารปี 49 ร่วมปฏิบัติการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดงปี 53 เปรียบเสมือนปีศาจร้ายทำให้คนตาย 99 ศพ และเป็นหัวโจกการยึดอำนาจปี 57 2.อยู่เบื้องหลังการทำคลอดรัฐธรรมนูญปี 60 เพื่อเปิดช่องให้เกิดรัฐบาลสืบทอดอำนาจที่สร้างภาระหนี้สินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่ไม่มีปัญญาใช้หนี้ 3.ล้มเหลวการแก้ไขวิกฤตการณ์โควิดที่ผลลัพธ์มีแต่คนตายเพิ่มขึ้น เสมือนเป็นปีศาจร้ายตามทำร้ายประชาชนตายมิรู้จบ จนผลโพลของสื่อใหญ่ระดับประเทศ ได้ชี้ออกมาว่าประชาชนที่เชื่อมั่นนายกฯสืบทอดอำนาจมีเพียง 1% กว่าเท่านั้นเอง

นายกฯสืบทอดอำนาจบริหารประเทศเชื่อฟังแต่ซินแส กฎแห่งกรรมกำลังตามไล่ล่า ประชาชนแทบทุกอาชีพต่างโห่ไล่ให้ลาออกไป คาร์ม็อบได้เป็นส่วนล่วงหน้าของยุทธการขับไล่ก่อนที่วันที่ 18 กรกฎาคมทัพใหญ่กลุ่มราษฎรต่างๆ ก็จะร่วมกันออกมาเติมเต็ม ทางออกถูกบังคับวิถีให้ต้องลาออกเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวก็รู้อยู่แก่ใจ แต่ที่ยังไม่ยอมลาออก เพราะพื้นฐานเป็นคนขี้ขลาดเห็นแก่ตัว จึงต้องเฝ้ารอกองกำลังภูมิคุ้มกันส่งสัญญาณมาก่อนว่าจะคุ้มครองให้ไม่ถูกเช็กบิลย้อนหลัง เมื่อต้องลาออกไป แต่ นาทีนี้ ไม่มีใครกล้าเป็นภูมิคุ้มกันให้แล้ว เพราะได้เห็นธาตุแท้ของกลุ่มคนสืบทอดอำนาจนี้แล้ว ว่ามิใช่เป็นคนที่เสียสละ แต่เป็นคนอำมหิตเห็นแก่ได้ที่แสวงหาอำนาจบนความตายของประชาชน ท้ายที่สุดมันจึงต้องไปจบที่ประชาชนร่วมกันเฉดหัวคนกลุ่มนี้ให้ออกจากอำนาจไปสู่ที่คุมขังแทนพล..ภราดรกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image