‘อังคณา’ ชี้ รบ.ขาดความชอบธรรม ใช้ความรุนแรงสลายผู้ชุมนุม จี้รัฐเร่งหาทางออก

“อังคณา” ชี้รัฐบาลขาดความชอบธรรมหลังใช้ความรุนแรงสลายผู้ชุมนุม จี้รัฐเร่งหาทางออกยุติปัญหา ถ้าทำไม่ได้ลาออกไป เหน็บใช้แต่กำลัง-อำนาจ แก้ปัญหาไม่ได้

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม นางอังคณา นีละไพจิตร อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ใช้ความรุนแรงในการเข้าสลายการชุมนุมในวันที่ 18 กรกฎาคม ว่า เท่าที่ดูการถ่ายทอดสดจากหลายช่องทางเห็นว่าประชาชน หรือกลุ่มผู้ชุมนุมมีข้อเรียกร้องชัดเจน คือให้รัฐบาลรับผิดชอบกรณีบริหารงานผิดพลาด และเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก ซึ่งผู้ชุมนุมพยายามเดินไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยที่ไม่มีการใช้ความรุนแรงแต่กลับถูกฉีดน้ำสกัด

“ทำเนียบรัฐบาลไม่ใช่สถานที่หวงห้าม เป็นสถานที่ที่ประชาชนสามารถไปแสดงออกทางสัญลักษณ์ของการต่อต้านได้ สังเกตหลายครั้งไม่ว่าจะเป็นที่รัฐสภา หรือที่ใดก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะให้ถอยร่นออกไปก่อน ถ้าเข้ามาก็จะฉีดน้ำ แต่ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ (18 กรกฎาคม) มีภาพการใช้ water cannon การยิงกระสุนยาง แก๊สน้ำตา ทั้งที่การชุมนุมดังกล่าว กลุ่มประชาชน หรือผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธ จึงมองว่าการกระทำดังกล่าวไม่มีความชอบธรรม ไม่มีความจำเป็นต้องสลายการชุมนุมเลย”

นางอังคณากล่าวต่อว่า ทุกครั้งที่มีเรื่องความขัดแย้ง มีการต่อต้าน จะต้องมีการนั่งพูดคุยหารือกัน ที่ผ่านมารัฐสภา พยายามแสดงบทบาทตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์ แต่กรรมการที่สภาตั้งขึ้น ไม่มีใครเชื่อถือ ฝ่ายค้านก็ไม่ร่วมด้วยเช่นเดียวกับแกนนำผู้ชุมนุม เพราะฉะนั้นรัฐบาลต้องหาวิธีในการเจรจาเพื่อยุติปัญหา ไม่ใช่ห้ามประชาชนต่อต้าน

“ทุกคนก็เห็นเหมือนกันว่ารัฐบริหารงานผิดพลาดขนาดไหน คนเสียชีวิตจำนวนมาก หาที่ตรวจเชื้อโควิดก็ไม่ได้ ตายในบ้าน ประชาชนทุกข์ร้อนแสนสาหัส หากรัฐต้องการแก้ไข ต้องการยุติความขัดแย้งต้องมาคุยกันต้องหาทางออก รัฐเองก็ต้องเสียสละ บริหารประเทศไม่ได้ก็ต้องลาออกไป ไม่ใช่ไม่ทำอะไรเลย ใช้แต่กำลังและอำนาจที่มีอยู่ปราบปรามอย่างเดียว ซึ่งไม่นำไปสู่การแก้ปัญหา”

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image