‘ไผ่ ดาวดิน’ นัดอีกพรุ่งนี้ สวนลุมพินี ทำกิจกรรม ‘หารือรื้อระบอบประยุทธ์’

‘แอมมี่’ ชวนร่วมสู้ – ปชช.หารือ ‘รื้อประยุทธ์’ ยัน อันตรายกว่าไวรัส – ‘ไผ่’ นัด พรุ่งนี้ สวนลุมพินี

เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ ลานหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แยกปทุมวัน กรุงเทพฯ กลุ่มทะลุฟ้า นำโดย นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน จัดกิจกรรม “หล่อเทียน ทำบุญประเทศ ขับไล่เสนียดจัญไร ออกไปไอ้สั*” เป็นวันที่ 2 ต่อเนื่องจากวานนี้ได้จัดกิจกรรมบริเวณ เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

เวลา 18.00 น. นายจตุภัทร์ หรือไผ่ ดาวดิน ทำกิจกรรม “หารือรื้อระบอบประยุทธ์” โดยกล่าวปราศรัยก่อนเริ่มว่า โครงการโคแวกซ์ คือโครงการที่มีมาตรฐาน แต่ไทยไม่เข้า เพราะคือสิ่งที่รัฐไทยไม่เคยทำมาตลอด การไม่เคยเคารพหลักสากล อ้างการบริหารแบบไทยๆ ตั้งแต่โควิดระบาด ตั้งแต่อยู่ในคุกจนออกมา ระบาดไม่รู้กี่รอบ ยังจัดการไม่ได้ จึงอยากชวนประชาชนร่วมหารือ รื้อระบอบประยุทธ์ เพราะประยุทธ์คืออุปสรรคเรื่องวัคซีน และการแก้ไขปัญหา หวังการแก้ไขในรัฐสภาก็ยาก สุดท้าย ส.ว.พรรคร่วมก็โหวต หารือว่าเราจะสู้อย่างไร จะชนะอย่างไร

เวลา 18.04 น. ประชาชนชายรายหนึ่ง ขึ้นกล่าวปราศรัย ระบุว่า ขอหารือ ด้วยการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังประชาชน และว่า ใต้พรมสกปรกมายาวนาน ไม่ต้องใช้ไม้กวาด ใข้เท้าเขี่ย ตนอายุ 61 ปี ลูกสาวอายุ 19 ปี ไม่มีอนาคต ขอให้คุณมีจิตใต้สำนึก ยิ่งนานวัน คุณยิ่งแก่ แต่ชาติ คือลูกหลานของเรา สลิ่มที่ยังไม่เปิดตา อย่าออกมาจากเคหะสถาน คุณจะเห็นมวลชนที่รักประชาธิปไตย แล้วจะอกแตกตายเสียก่อน

Advertisement

เวลา 18.07 น. ประชาชนชายอีกราย กล่าวว่า ขอให้ทุกคนออกมาสู้ด้วยกัน เนื่องจากมีประชาชนตายถึง 3,000 คน เพราะไม่ได้วัคซีนที่ดี ประยุทธ์อันตรายกว่าไวรัสมาก ขอให้ออกมาไล่ร่วมกัน

เวลา 18.11 น. ประชาชนหญิง กล่าวว่า หน้าที่ของรัฐ คือต้องนำความสุขมาสู่ประชาชน ไม่ใช่นำพาความฉิบหาย ประยุทธ์ยังมีโอกาสแก้ตัว ด้วยการออกไป นั่นคือหนึ่งก้าวแรกที่คุณจะต้องมีความรับผิดชอบ

ต่อมา นายจตุภัทร์ กล่าวว่า ที่นี่มีคนเป็นกลางด้วย จากนั้น ประชาชนร่วมเปล่งเสียงว่าเป็นกลางอย่างไร อาทิ เป็นกลางกลางที่ชุมนุม, เป็นกลาง กลางแก๊สน้ำตา, เป็นกลางกลางกระสุนยาง, เป็นกลางกลางใจ คฝ., เป็นกลาง กลางกองเพลิง, เป็นกลาง กลางรถจีโน่ ฯลฯ

นายจตุภัทร์กล่าวต่อว่า ความเป็นกลางไม่มีอยู่จริง การที่คุณไม่ออกมาเรียกร้อง ต่อต้าน คือการปล่อยให้ประชาชนล้มตาย ให้คนมีอำนาจทำแบบนี้ต่อไป เท่ากับคุณกำลังยืนมองกองศพอยู่ อยู่ที่ว่าคุณเลือกข้างความถูกต้องหรือไม่

จากนั้น ประชาชนหญิง ร่วมหารือโดย กล่าวว่า 1.ประยุทธ์ต้องเห็นประชาชนเป็นประชาชนก่อน
2.แก้รัฐธรรมนูญ 2560
3.การล็อกดาน์ประเทศ ต้องคำนึงหลักความได้สัดส่วน เพราะทุกวันประชาชนตรวจเองแล้วเจอโรค เข้ารักษาใน รพ.ไม่ได้

“ต้องไม่ปล่อยให้ประชาชนนอนตายอยู่บ้านโดยไร้มนุษยธรรม ประชาชนด้วยกันเอง ก็ต้องเห็นคนเท่ากัน เห็นว่าปัญหาเกิดกับทุกคน ไม่ใช่ออกมาพูดเมื่อปัญหาเกิดกับตัวเอง นั่นไม่ใช่เห็นใจ นั่นคือเห็นแก่ตัว” ประชาชนหญิงกล่าว

โดย นายจตุภัทร์ กล่าวเสริมว่า ผู้ใหญ่ใจร้ายที่ไหนกัน บริหารให้คนไม่มีความคิด หมดความหวัง ไม่มีความฝัน ไม่มีจินตนาการ

“ชาวนามีปัญหา ให้ไปปลูกข้าวบนดาวอังคาร น้ำท่วม โควิด ไฟไหม้ ฝุ่นพิษ ประชาชนช่วยกันเอง โทษแต่ประชาชนเป็นปัญหา หลังประกาศล็อกดาวน์ เห็นชัดว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น เพราะคนเดือดร้อน ชีวิตเขาพังทลายไปหมด

นี่คือสิ่งที่ประชาชนสะท้อนออกมา เราจะเอาไปกำหนดทิศทางการเคลื่อนไหวต่อไป” นายจตุภัทร์กล่าว

เวลา 18.29 น. นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ  แอมมี่ เดอะบอตทอมบลูส์ ทำการบรรเลงดนตรี หลายบทเพลง โดยประชาชนต่างร่วมสนุกสนาน โบกมือ และโยกย้าย

นายไชยอมรกล่าวว่า ดีใจที่ได้ออกมาเล่นดนตรีให้ทุกคนฟังอีกครั้ง หลังจากที่อยู่ข้างในเรือนจำ

จากนั้น เวลา 18.51 น. นายไชยอมร ชู 3 นิ้ว พร้อมกล่าวว่า “สู้ไปด้วยกัน”

นายจตุภัทร กล่าวปิดท้ายว่า ใครที่มองแล้วไม่เห็นอนาคต ทนไม่ไหว ออกมาร่วมกัน 16.00 น. วันพรุ่งนี้ 22 กรกฎาคม ที่สวนลุมพินี เจอกัน ใครอยากออกมาร่วมก็ออกมา

ก่อนยุติกิจกรรมในเวลา 18.53 น. ทั้งนี้ ประชาชนได้ร่วมส่งท้าย ด้วยการเปล่งเสียง “ประยุทธ์ออกไป ศักดินาจงพินาศ ประชาราษฎร์จงเจริญ เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” ก่อนเก็บข้าวของแยกย้ายกลับบ้านด้วยความเรียบร้อย บางส่วนร่วมเขียนข้อความส่งถึง นางอัญชัน ปรีเลิศ ผู้ต้องหาคดี ม.112 กับ แอมเนสตี้อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ที่ตั้งโต๊ะอยู่ใกล้เคียง บางส่วนร่วมหล่อเทียนก่อนกลับ อีกด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image