‘พิธา’ ชี้ ‘ตร.’ ของบซื้ออาวุธสงครามหนัก จนแทบจะเป็นทหาร ไม่ใช่ตำรวจแล้ว

‘พิธา’ ชี้ ‘ตร.’ ของบซื้ออาวุธสงครามหนัก จนแทบจะเป็นทหาร ไม่ใช่ตำรวจแล้ว

เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 มีการพิจารณาหน่วยรับงบประมาณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ตั้งคำถามถึงการใช้งบประมาณว่า ประเด็นแรก งบประมาณจัดซื้ออุปกรณ์ควบคุมการชุมนุม จำนวน 1,040 หน่วย งบประมาณ 3 ล้านบาท ซึ่งงบประมาณส่วนนี้ปีที่แล้วมีการตั้งซื้อ 900 ล้านบาท ในชั้น กมธ. ไม่ทราบรายละเอียดเลยว่างบประมาณที่ขอนั้นใช้ซื้ออะไร อาวุธประเภทไหน เป็นอาวุธรุนแรงมีคู่มือข้อกำหนดในการใช้ควบคุมฝูงชนตามหลักประชาธิปไตยสากลหรือไม่

นายพิธากล่าวว่า หน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจคือต้องดูแลอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่จะใช้สิทธิในการชุมนุม หรือสิทธิการแสดงออกเพื่อส่งเสียงให้สาธารณะได้รับทราบ แต่ดูเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความสำคัญไปกับการควบคุมปราบปรามมากกว่าดูแล ถ้าประชาชนไม่เดือดร้อน ไม่ถูกกดขี่ รัฐบาลทำงานได้ดี ก็คงไม่มีใครอยากออกมาบนท้องถนนให้ตำรวจปราบปราม ตนมีความกังวลใจเกี่ยวกับการใช้งบประมาณซื้ออาวุธสงครามหนัก ที่ทำให้ตำรวจกำลังจะกลายเป็นทหารไปเสียเอง

“ตร.ขอซื้ออาวุธสงคราม เช่น ปืนเล็กสั้น (Carbine) ปืนเล็กยาว (Rifle) ปืนกลมือ (Submachine gun) รวม 7,000 กระบอก ซื้อดาบปลายปืนสำหรับปืนเล็กยาว 2,000 กระบอก และรถหุ้มเกราะกันกระสุน 10 คันของ ตชด. ขอถามถึงความจำเป็นในการใช้ อาวุธสงคราม ดาบปลายปืน และรถหุ้มเกราะ ในการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน ไม่แน่ใจว่าการใช้อาวุธหนักขนาดนี้จะตรงกับวิสัยทัศน์ในการให้ความเป็นธรรมของพี่น้องประชาชน ปกป้องสิทธิพี่น้องประชาชนตามสิทธิของประชาชนไทยอย่างไร จึงต้องขอเอกสารสำหรับอาวุธหนักเหล่านี้ว่ามีไว้เพื่ออะไร และใช้ในกรณีไหน และมีคู่มือในการใช้อย่างไร” นายพิธากล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image