กกต.ยกคำร้อง “นายกอบจ.ระนอง” ปมรู้เห็นเป็นใจให้ผู้สมัคร “รวมพลังระนอง” ขาดคุณสมบัติลงเลือกตั้งส.อบจ.ชี้ ไม่พบพยานหลักฐานฝ่าฝืนกฎหมายตามข้อกล่าวหา
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.เรื่องการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง กรณีก่อนประกาศผลการเลือกตั้ง กกต.ได้รับคำร้องว่า นายธนกร บริสุทธิญาณี ผู้สมัครนายก อบจ. ผู้ถูกร้อง กระทำการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น มาตรา 120 กรณีสนับสนุนหรือรู้เห็นเป็นใจให้ผู้ใดลงสมัครรับเลือกตั้งโดยรู้อยู่แล้วว่าตนขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการสมัครรับเลือกตั้ง
ทั้งนี้ กกต.พิจารณารายงานการไต่สวนตลอดจนพยานหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบกันแล้วได้ความว่าผู้ร้องกล่าวหาว่านายธนกร สนับสนุนรู้เห็นเป็นใจให้ผู้สมัครสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง อ.เมืองระนอง เขตเลือกตั้งที่ 10 ซึ่งเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งกลุ่ม “รวมพลังระนอง” ลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าบุคคลดังกล่าวเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดว่ากระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ซึ่งเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ที่ได้กระทำโดยทุจริตตามประมวลกฎหมายอาญา
ซึ่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ไม่รับสมัครบุคคลดังกล่าว โดยจากการไต่สวนผู้ร้อง ให้ถ้อยคำว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งคนดังกล่าวเคยเป็นลูกจ้างในนากุ้งของผู้ถูกร้อง และผู้ถูกร้องย่อมทราบดีว่าลูกจ้างของตนเคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำความผิดฐานลักทรัพย์ แต่ตนไม่แนใจว่าผู้ถูกร้องได้กระทำการใดๆ เพื่อให้บุคคลดังกล่าวลงสมัครรับเลือกตั้งหรือไม่
ส่วนผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำองค์การบริหารส่วนจังหวัดระนอง ให้ถ้อยคำว่า บุคคลดังกล่าวได้ลงสมัครรับเลือกตั้งโดยมิได้แจ้งว่าเคยต้องคดีใด ซึ่งการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงพบว่าบุคคลดังกล่าวมีลักษณะต้องห้ามฯจึงไม่รับ สมัครบุคคลนั้นเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง
ประกอบกับจากถ้อยคำของผู้ร้องและพยานหลักฐานข้างต้น ยังไม่อาจยืนยันได้ว่านายธนกร เป็นผู้ก่อ สนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจให้บุคคลดังกล่าวลงสมัครรับเลือกตั้งโดยที่รู้อยู่แล้วว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้ขาดคุณสมบัติ ข้อเท็จจริงจึงยังรับฟัง ไม่ได้ว่า กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น มาตรา 120 จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้อง
