ที่ประชุมห่วงการขยายเตียง คุมการระบาดให้ได้ก่อน ‘นายกฯ’ ย้ำเร่งจัดหาวัคซีน ชีวิตคนไทยต้องได้รับการดูแล

‘บิ๊กตู่’ เน้นทุกฝ่ายทำงานทั้งเชิงรุกและรับ อ้อน ‘ผมรักทุกคนนะครับ’

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 30 กรกฎาคม ที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.1 ทม.รอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการบริหารจัดการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมของหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ หรือ Hospitel และโรงพยาบาลเอกชน จำนวน 21 แห่ง ผ่านระบบแอพพลิเคชั่น Zoom จากบ้านพัก ภายใน ร.1 ทม.รอ. ซึ่งเป็นอีกวันที่นายกรัฐมนตรีเวิร์กฟอรมโฮม

โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และทีมแพทย์สาธารณสุข เข้าร่วมประชุมกับ ผู้บริหารโรงพยาบาลเอกชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมการบริหารจัดการดูแลผู้ติดเชื้อโควิด-19 และการเตรียมความพร้อมของหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ หรือ Hospitel และโรงพยาบาลเอกชน ที่ประชุมมีข้อกังวลว่าแม้จะขยายเตียงมากเท่าไหร่ แต่จะรองรับผู้ป่วยได้เพียงพอหรือไม่ หากการควบคุมการระบาดยังไม่เป็นผล โดยเฉพาะเรื่องของวัคซีนที่เป็นหัวใจสำคัญ

นายกรัฐมนตรีกล่าวย้ำว่า รัฐบาลเร่งรัดสนับสนุนการนำเข้า จัดหาวัคซีนทั้งของรัฐและเอกชน โดยวัคซีนหลักของรัฐบาลคือซิโนแวค แอสตร้าเซนเนก้า ไฟเซอร์ จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน และกำลังดำเนินการด้านเอกสารของสปุตนิก วี ส่วนวัคซีนทางเลือกที่เอกชนซื้อผ่านราชวิทยาลัย เช่น ซิโนฟาร์มที่มีเข้ามาแล้ว โมเดอร์นาที่จะเข้ามาไตรมาส 4 ทั้งหมดขึ้นอยู่กับบริษัทต้นทาง แต่รัฐบาลพร้อมสนับสนุนเต็มที่

Advertisement

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวในช่วงท้าย โดยยืนยันว่าชีวิตประชาชนคนไทยต้องได้รับการดูแล ส่วนข้อกฎหมายที่ติดขัดจะแก้ไข และมีให้แพทย์การบริหารจัดการโรคทำงานได้ รวมทั้งชุด Antigen test Kit (ATK) ที่จะมีการแจกจ่ายไปตรวจ และเมื่อตรวจแล้วจะดำเนินการต่ออย่างไรต้องให้ชัดเจน

นอกจากนี้ นายกฯขอให้ร่วมมือกันและพูดคุยกัน เพื่อไม่สร้างความสับสนให้กับประชาชน ทุกภาคส่วนต้องทำงานในเชิงรุกและเชิงรับ ด้านเชิงรุก เช่น การขยายเตียง ด้านเชิงรับ เช่น การตรวจสอบคัดกรอง ต้องมีการบูรณาการงานร่วมกัน

“สำหรับวัคซีนทางเลือกของเอกชน พร้อมจะเร่งและสนับสนุนให้มีการนำเข้า รวมทั้งชุด ATK ที่จะมีการแจกจ่ายไปตรวจ แต่ตรวจแล้วจะดำเนินการต่ออย่างไรต้องให้ชัดเจน และขอย้ำว่าวัคซีนที่มีอยู่จะทำการแจกจ่ายให้ทั่วถึงตามสัดส่วนประชากรและการระบาดของโรค ขอร่วมมือกัน พูดคุยกัน เพื่อไม่สร้างความสับสนให้ประชาชน ผมรักทุกคนนะครับ” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image