‘สิระ’ ซัดแหลก ‘คาร์ม็อบ’ สุดถ่อย ฉวยโอกาสซ้ำเติมบ้านเมือง ย้ำ คุกคือที่อยู่ที่เหมาะสมของแกนนำ เย้ย ‘เต้น ณัฐวุฒิ’ คิดจะเผาอะไรให้เงินเข้ากระเป๋าอีก แนะหากคิดถึง ‘ตู่’ จะพาไปอยู่ด้วยกัน เชื่อ ‘บิ๊กตู่’ ยังต้องอยู่เพื่อความสงบของประเทศ
เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 1 สิงหาคม นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มผู้ชุมนุมคาร์ม็อบในวันนี้ว่า การชุมนุมที่เกิดขึ้นคือการทำผิดกฎหมายในทุกข้อ ใช้คำว่าคาร์ม็อบมาบังหน้า เสมือนจะเป็นการชุมนุมโดยสันติวิธี แต่สุดท้ายพฤติกรรมสุดเถื่อนถ่อยไม่ต่างจากแก๊งอันธพาลครองเมือง มั่วสุมกันเมื่อไหร่ก็มีทั้งความรุนแรงและอาวุธพร้อม ทั้งระเบิด อุปกรณ์ครบมือ มาทำลายทรัพย์สินประเทศ แถมยังออกมาละเมิดสิทธิของผู้อื่น ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประเทศชาติวันนี้เผชิญกับวิกฤตโควิด-19 แต่กลุ่มคนเลวๆ เหล่านี้กลับฉวยโอกาส สร้างปัญหาซ้ำเติมให้กับประเทศ
นายสิระกล่าวว่า นี่คือเหตุผลว่าทำไม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงยังต้องอยู่ในตำแหน่งเพื่อทำให้ประเทศอยู่กันได้อย่างสงบ และแก้ไขปัญหาโควิด-19 ให้ประเทศผ่านพ้นวิกฤตไปให้ได้
“วันนี้บรรดาแกนนำอย่างนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน, นายอานนท์ นำภา, นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือไผ่ ดาวดิน ถือว่าละเมิดคำสั่งศาล ผิดเงื่อนไขห้ามชุมนุมก่อความวุ่นวายในบ้านเมืองโดยความผิดสำเร็จ ฉะนั้นไม่มีความจำเป็นที่บุคคลนอกคอกพวกนี้ต้องอาศัยอยู่ร่วมกับประชาชนคนไทยคนอื่นๆ เพื่อก่อความวุ่นวายอีกต่อไป
“อย่างที่ผมเคยบอกว่าคนพวกนี้เป็นคนไม่ปกติ ไม่สามารถอยู่ร่วมในสังคมได้ ที่ที่เหมาะสมที่สุดคือคุก ที่จะทำให้ประเทศชาติสงบสุขได้ เพราะพิสูจน์แล้วว่าคนกลุ่มนี้ไม่มีสามัญสำนึกที่จะกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีๆ แบบที่คนทั่วไปเขาเป็นกันได้ ที่สำคัญคนพวกนี้มีเจตนาจะต้องการเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ หวังมาแพร่เชื้อโควิด และโยนความผิดให้กับรัฐบาลในการบริหารจัดการ บุคลลเหล่านี้หรือที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ผมก็ขอให้คนไทยช่วยกันพิจารณาถึงพฤติกรรมการใช้ความรุนแรง รวมถึง คำพูด คำจาที่หยาบคายด้วย” นายสิระกล่าว
นายสิระกล่าวต่อว่า ส่วนบุคคลที่ชื่อนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. เท่าที่ทราบ นายณัฐวุฒิมีชื่อเสียงขึ้นมาจากดาราตลกในรายการสภาโจ๊ก จนกระทั่งมีโอกาสได้เข้ามาเป็นนักการเมือง ผลงานชิ้นโบแดงก็คือ เผาแล้วรวย ที่เผาไปตอนนั้นก็ยังไม่ชดใช้ให้บุคคลที่เขาได้รับความเสียหาย วันนี้ออกจากคุกมาได้ เพราะได้อานิสงส์จากการพระราชทานอภัยโทษ ยังไร้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดี ออกมาปลุกปั่น สร้างความแตกแยกให้คนไทย มาครั้งนี้อยากถามนายณัฐวุฒิว่าจะมาเผาอะไรหาเงินอีก หรือว่าคิดถึงเพื่อนอย่างนายจตุพร พรหมพันธ์ุ ที่อยู่ในคุกตอนนี้ อยากเข้าไปหาเพื่อนก็บอกดีๆ จะพาไปอยู่ด้วยกัน ไม่ต้องมาทำลายบ้านเรือน ทรัพย์สินของชาวบ้านเขาเสียหายอีก และครั้งนี้คงไม่ง่ายนักที่จะมีคนโง่ออกมาร่วมกันเผาหาเงินเข้ากระเป๋าให้นายณัฐวุฒิอีก เพราะคนเสื้อแดงเขาตาสว่างกันหมดแล้ว
“พวกสิทธิมนุษยชนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มใด หากจะออกมาปกป้องสิทธิให้พวกก่อความวุ่นวาย ช่วยพิจารณาให้ดีด้วยว่าม็อบที่ทำร้ายประเทศ ทำร้ายตำรวจ ด้วยอาวุธพร้อมมือ มีเจตนาจงใจพกพาอาวุธออกมาจากบ้าน เพื่อทำร้ายผู้อื่น ถือเป็นการละเมิดสิทธิและเสรีภาพของผู้อื่นด้วยหรือไม่ อย่าปิดหูปิดตาปกป้องคนที่กระทำผิด มันจะทำให้กฎของสังคมที่ต้องมีในการอยู่ร่วมกันเสียหายไปหมด และหากไม่รู้จะพูดอะไร ผมก็ขอให้หุบปากไปบ้าง เพราะทุกวันนี้ที่บ้านเมืองปั่นป่วนไปหมด พวกคุณก็มีส่วนในปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย” นายสิระ กล่าว
