‘เต้’ ยอมเจ็บตัวเพื่อ ปชช. ท้าเดี่ยว ‘บิ๊กตู่’ ลั่นขอใช้แค่หมัดขวา เชิญ ‘บิ๊กป้อม-ผู้นำฝ่ายค้าน’ เป็นกรรมการ

‘เต้’ ห้าวเป้ง ยอมเจ็บตัวเพื่อ ปชช. ท้าเดี่ยว ‘บิ๊กตู่’ จบปัญหาแค่ 2 คน ไม่เอาเปรียบคนชรา ขอใช้แค่หมัดขวา เชิญ ‘บิ๊กป้อม-ผู้นำฝ่ายค้าน’ เป็นกรรมการ ขีดเส้นตาย 30 ส.ค. ต้องรับคำท้า ถ้าไม่อยากเป็นคนใจปลาซิว

เมื่อเวลา 13.20 น. วันที่ 20 สิงหาคม ที่รัฐสภา นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีออกมาประกาศท้าต่อยกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ว่า ขณะนี้สถานการณ์มีม็อบ และเกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง แต่ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ยังอยากอยู่ในตำแหน่งต่อไป โดยไม่สนใจเสียงหัวใจของประชาชนที่ตายกันทุกวัน เงินกู้ที่นายกฯใช้จาก พ.ร.ก.เงินกู้ 2 ฉบับ รวม 1.5 ล้านล้านบาท ยังไม่รวมเงินกู้ขาดดุลงบประมาณอีกปีละ 1 ล้านล้านบาท ต่อเนื่องอีก 2 ปี ดูแล้วไทยจะไร้อนาคต และยังหาทางออกให้ประชาชนไม่ได้ แต่ ส.ว.กับพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังดึงดันที่จะรักษาตำแหน่ง ให้นายกฯ

“เมื่อวานนี้ (19 สิงหาคม) เป็นวันแรกที่ พล.อ.ประยุทธ์ ออกจากบ้านมาทำงาน ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เวิร์กฟรอมโฮมมาโดยตลอด หลังจากที่อยู่ในรู เอ้ย อยู่ที่บ้าน ประเทศไทยจึงเหมือนไม่มีนายกฯ ความผิดพลาด และความล้มเหลวในการจัดการวัคซีน มีแต่ไฟเซอร์บริจาค ของจริงคงจะมาอีก 3 เดือนข้างหน้า คนคงตายมากกว่านี้ ผมอยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ ทำเหมือนนายกฯ​มาเลเซีย ที่เข้าเฝ้าฯและลาออก เป็นการแสดงความรับผิดชอบที่มีผู้ติดเชื้อเกิน 1 ล้านคน ที่มีจำนวนพอๆ กับเรา แต่ผมยังไม่เห็นความรับผิดชอบทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์เลย พล.อ.ประยุทธ์ไม่ได้อยู่เพื่อประชาชน แต่อยู่เพื่อตนเอง พวกพ้อง และครอบครัว ท่านไม่มีประโยชน์อะไรเลยที่จะอยู่ในตำแหน่งนายกฯ​ แต่ทำให้บ้านเมืองระส่ำระสาย และเดือดร้อนทุกหย่อมหญ้า หนี้ประชาชน และหนี้รัฐบาลเกิน 60% ไปแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มีทางแก้ปัญหาได้ดีกว่านี้

“ดังนั้น เพื่อยุติปัญหาทุกอย่าง ผมขอสวมหัวใจของพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนทั้งประเทศ ขอท้า พล.อ.ประยุทธ์ มาต่อยกัน ที่สนามมวยลุมพินี เป็นแบบมวยคาดเชือก เดี่ยว 1 ต่อ 1 ไม่ต้องส่งตัวแทนมา เพราะตัวแทนไม่ใช่นายกฯ ผมน้ำหนัก 79 กิโลกรัม พล.อ.ประยุทธ์ก็น้ำหนักประมาณเดียวกัน อายุห่างกัน 27 ปี ผมไม่ต้องการรังแกคนชรา จึงจะขอใช้แค่มือขวามือเดียว พันผ้าก๊อซที่มือกับเข่าเท่านั้น ผมไม่ใช่นักมวย แต่เคยเป็นครูสอนเพาะกายมาก่อน จึงเคลื่อนไหวไม่เร็วมาก แต่ขอแค่หมัดเดียว ชก 3 นาที 3 ยก ให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน เป็นกรรมการ หาก พล.อ.ประยุทธ์ แพ้ จะต้องสัญญากับประชาชนว่าจะลาออกจากนายกฯทันที เพื่อเปิดทางให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้” นายมงคลกิตติ์กล่าว

Advertisement

นายมงคลกิตติ์กล่าวต่อว่า หากตนแพ้ ก็หมายความว่าประชาชนแพ้ด้วย ตนก็จะต้องลาออกจาก ส.ส.ทันทีเช่นกัน นี่คือสิ่งที่ตนให้คำสัตย์ไว้ ตนขอท้า พล.อ.ประยุทธ์ว่า ภายในวันที่ 30 สิงหาคม หากพล.อ.ประยุทธ์ ไม่รับคำท้า จะถือว่าหน้าตัวเมีย ใจปลาซิว เสียชื่อกองทัพบก เพราะเคยเป็นอดีตผู้นำเหล่าทัพ เรื่องนี้ใช้กีฬา และสันติวิธีเป็นตัวตัดสิน ใครจะมายื่นสอบจริยธรรมก็ไม่ได้ เพราะต่อยที่สนามมวย เป็นไปตามกติกาสากล ไม่ถึงแก่ชีวิต แต่สามารถรักษาบ้านเมืองไว้ได้ และจะทำให้บ้านเมืองกลับสู่ความสงบสุขต่อไป เพื่ออิสรภาพของประชาชน การต่อยไฟต์นี้ เป็น 10 fight 10 ที่จะปลดแอกจากระบอบประยุทธ์ และระบอบ คสช. เดิมที่ยังเหลืออยู่บ้าง และประชาชนจะได้ไม่ต้องเกณฑ์ม็อบกันทั่วประเทศ ให้เสียเวลา และทำให้ผู้ติดเชื้อมากขึ้นด้วย หาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่กล้า ก็รีบเซ็นใบลาออก หากใจปลาซิวก็ถือว่าไม่ใช้ลูกผู้ชาย เสียชื่อนักเรียนนายร้อย จปร. ด้วย

เมื่อถามว่า จะไม่ถูกมองว่าเป็นการท้าตีท้าต่อย เพื่อแก้ปัญหาใช่หรือไม่ นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ระบบรัฐสภา ก็ว่ากันไป เพียงแต่ถือเป็นกีฬาอย่างหนึ่ง ที่สามารถเอาชิงเอาชัยกันได้ เมื่อถามว่า มีการตั้งคำถามว่า เป็นผู้แทนราษฎร ทำไมถึงไม่ใช้วิธีทางกฎหมาย นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า การใช้วิธีทางกฎหมาย กว่าจะยื่น ป.ป.ช. หรือทำตามขั้นตอน ก็ใช้เวลาหลายปี ผู้ติดเชื้อเดือนละ 1 ล้านคน เราทนได้หรือไม่ ต้องอย่าลืมว่า พล.อ.ประยุทธ์​แต่งตั้ง สนช. ส.ว. มากับมือ องค์กรอิสระก็เป็นคนของนายกฯ ฉะนั้นใครจะเอาลงได้ นอกจากสามัญสำนึกที่จะเอาลงได้

Advertisement

เมื่อถามว่า หากการต่อยเป็นทางออก ก็ต้องใช้การต่อยแบบนี้ต่อไปใช่หรือไม่ นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ถามว่าปัจจุบันนี้ยิ่งกว่าต่อยหรือไม่ เพราะมีการยิงแก๊สน้ำตา กระสุนจริง และกระบอง พล.อ.ประยุทธ์ ยุติธรรมกับประชาชนหรือไม่ นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือไฮโซลูกนัท ก็ตาบอดไปแล้ว จะต้องให้ใครตาบอดอีก ไม่ต้องการเห็นประชนเสียเลือดเสียเนื้อ และไม่ต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐ โดยเฉพาะตำรวจ และทหาร ต้องมาประหัตประหารประชาชนเพื่อรักษาอำนาจให้ พล.อ.ประยุทธ์ นี่คือวิธีที่เจ็บน้อยที่สุด และมีคนแค่ 2 คนที่เจ็บตัว ทุกคนเป็นกำลังใจก็พอ

เมื่อถามว่า ที่ออกมาพูดเช่นนี้ ต้องการพื้นที่สื่อใช่หรือไม่ นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะตนมีพื้นที่สื่ออยู่แล้ว ตนอภิปรายไม่ไว้วางใจก็มีข้อมูล แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องอาศัยเสียงยกมือ พล.อ.ประยุทธ์ ถูกอภิปรายแล้วอาจจะถูกโหวตออก หรือลาออกไป แต่ยังอยู่ในบัญชีนายกฯอยู่ แต่หากแพ้คาเวที พล.อ.ประยุทธ์ ก็ไม่มีหน้าที่จะเป็นนายกฯต่อไปอีกแล้ว

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ ออกมาปกป้อง พล.อ.ประยุทธ์ นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ก็แล้วแต่นายสิระ ถ้านายสิระสามารถยับยั้งความเจ็บป่วย การตาย และความเดือดร้อนของประชาชน ที่มาจาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้ จะไม่ว่าสักคำเลย จะเป็นลูกน้องที่ดี แต่ปัจจุบันทำไม่ได้

เมื่อถามว่า หากมีคนออกตัวอยากสู้แทน พล.อ.ประยุทธ์ นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ถ้าอย่างนั้นตนคงเอา บัวขาว และสมรักษ์ คำสิงห์ มาชกแทน ซึ่งก็จะกลายเป็นยกพวกตีกันของ 2 ฝ่าย เหมือนที่มีการนัดกันทุกวันเหมือนที่สามเหลี่ยมดินแดง แถวหน้าบ้าน พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประยุทธ์ใช้ตำรวจและทหารที่กินเงินเดือนของประชาชนมานัดตีกับประชาชน เมื่อถามว่า ส่งนายสิระไปชกแทน พล.อ.ประยุทธ์ ได้หรือไม่ นายมงคลกิตติ์กล่าวว่า ให้นายสิระเป็นนายกฯให้ได้ก่อน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image